ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh)
ตะแกรงเหล็กไวร์เมชกล้าเชื่อมติดเสริมคอนกรีต ทอติดกันเป็นผืน มีขนาดเส้นลวดขนาดต่างๆตั้งแต่ 3 มม.- 6 มม. ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็น (Cold Drawn Steel Wire) อาร์คเชื่อมติดกันด้วยไฟฟ้าทำให้จุดตัดทุกจุดหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ระยะห่างของเส้นลวดหรือที่นิยมเรียกว่า @มีหลายขนาด เช่น 15*15 นิ้ว / 20*20 นิ้ว / 25*25 นิ้ว จะใช้แทนการผูกเหล็กเส้นธรรมดาทั่วไปเป็นอย่างดี ทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน สามารถตัดเป็นแผงและเป็นม้วนได้ตามความต้องการโดยไม่เสียเศษ เงิน และแรงงานได้มากกว่า 80% และมีความสม่ำเสมอของตะแกรงที่แน่นอน ทำให้บริษัทหรือช่างก่อสร้างส่วนใหญ่เลือกใช้ จึงได้รับความนิยมใช้กันมาขึ้นเรื่อยๆ
ประโยชน์ของการเลือกใช้ไวร์เมช
ประหยัด
เพราะตะแกรงเหล็กสามารถผลิตได้ตามขนาดที่ต้องการ จึงทำให้ไม่เสียเศษเหล็ก และเป็นตะแกรงเหล็กที่มีกำลังคลากสูงกว่าเหล็กเส้นทั่วไปสองเท่าจึงทำให้ ประหยัดวัสดุ
ลดขั้นตอนเวลา
ภาระและความสูญเสีย เพราะเป็นตะแกรงเหล็กที่ลดขั้นตอนในการทำงานได้ถึง 50% และใช้งานได้รวดเร็ว เนื่องจากการขนส่งเคลื่อนย้ายสะดวกและรวดเร็ว การตัดและดัดทำให้ลดเวลาในการผูกเหล็กลงได้ถึง 70-90% นำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาในการผูกเหล็ก
แข็งแรงสม่ำเสมอแน่นอน
เพราะเป็นตะแกรงเหล็กที่ผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ ทุกระยะจุดเชื่อมไม่คลาดเคลื่อนได้มาตรฐาน สม่ำเสมอตลอดผืนและมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่บิดงอ ทำให้งานเสริมเหล็กออกมาดี ซึ่งเป็นผลให้โครงสร้างมีความแข็งแรงสม่ำเสมอตลอดทั้งผืน
หน้าที่ของเหล็กไวร์เมช
เหล็กไวร์เมช ที่ใช้แทนการผูกเหล็กสำหรับทำถนนคอนกรีตเหล็ก Wire mesh มีหน้าที่เอาไว้รับแรงกระแทก และแรงกดทับเพราะ ช่วยให้การทำงานไวขึ้น และใช้เป็นทางยาวๆที่ใช้การเอาเหล็กมาผูกและเป็นเหล็กขนาดเล็กอาจจะไม่เหมาะเท่าที่ควรและประสิทธิภาพไม่ดีเท่าเหล็กไวร์เมช หรือตะแกรงไวร์เมช
ลักษณะการใช้งานตะแกรงไวร์เมช
ตะแกรงไวร์เมช เป็นตัวรับและกระจายน้ำหนักเหล็กตะแกรงในงานถนน มีไว้ป้องกันการแตกร้าวเป็นหลักหรือใช้ในการก่อสร้างถนน โดยใช้เหล็ก ส่วนใหญ่เอาไว้รับแรงดึง จากการขยายตัวของพื้นคอนกรีตความแข็งแรงของถนน
คือชั้นคันทางโดยมีคอนกรีตทำหน้าที่กระจายแรง ขณะเดียวกัน ถ้าคันทางรับน้ำหนักไม่ได้แม้คอนกรีตจะกระจายแรงได้ดีเพียงใด มันก็ รับน้ำหนักไม่ไหว ดังนั้น ถ้า คอนกรีตกระจายแรงได้ดี
แต่คันทางรับน้ำหนักไม่ได้ คอนกรีตก็จะแตก ตะแกรงเหล็กไวร์เมช ทั่วไปจะรับแรงดึงได้ มากกว่า เหล็กเส้นกลม ประมาณ 2 เท่า
ไวร์เมช มีลักษณะเด่นในการรับน้ำหนัก จึงเป็นที่นิยมในการปูพื้นเพื่อรองรับคอนกรีตที่เทเป็นพื้นตึกหรืออาคาร และใช้ในการก่อสร้างอาคาร
ปูกำแพงดิน ,ผนังรับแรง ,กำแพงคอนกรีต ที่ต้องการโครงสร้างที่ผสานเชื่อมต่อกันอย่างมั่นคงแข็งแรงมากๆ
-ประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ ได้ตามความต้องการ เช่นโกดังเก็บของ ลานจอดรถ พื้นโรงจอดรถ เป็นต้น
ประเภทของตะแกรงไวร์เมช
ตะแกรงไวร์เมชหลักๆนั้น มีการใช้งานอยู่ 2 ประเภท คือ
- ตะแกรงเหล็กไวร์เมช เพื่อใช้สำหรับในงานเทพื้นคอนกรีต เพื่อรับน้ำหนักหรือรับแรง เหล็กไวร์เมชชนิดนี้ มรการใช้งานทั้ง เหล็กข้ออ้อยและเหล็กเส้นกลม ลักษณะของการใช้งานนี้คือ ใช้รองก่อนทำการเทพื้นคอนกรีต พร้อมกับเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนัก และเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นของคอนกรีตอีกด้วย
- กัลป์วาไนซ์ ไวร์เมช ตะแกรงไวร์เมช ชนิดนนี้ทำมาเพื่อปูบนเพดาน เพื่อวางแผ่นฉนวนกันความร้อน ต่างจากตะแกรงไวร์ชนิดแรก เพราะไวร์เมชชนิดนี้ จะชุบกัลป์วาไนซ์เพื่อป้องกันการเกิดสนิม อีกทั้งยังทำให้มีอายุการใช้งานยาวได้นานยิ่งขึ้น ตะแกรงเหล็กไวร์เมช ที่เอาไว้ปูบนพื้นเพดานนั้น นิยมเรียกกันว่า กัลป์วาไนซ์ไวร์เมช
การเลือกใช้งานไวร์เมช
ในการเลือกใช้งานวายเมทนั้น ท่านต้องทราบขนาดของพื้นที่ของหน้างานก่อน แล้วจึงจะสั่งตะแกงไวร์เมช ตามขนาดของพื้นที่ของหน้างาน และประเภทงานเช่น ถ้าพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักหรือรับแรงมากๆ ก็ควรเลือกใช้งานตะแกรงไวร์เมชที่มีขนาดของลวดที่ใหญ่ และระยะห่างที่ถี่มากขึ้น เพราะถ้าขนาดลวดที่ใหญ่ และระยะห่างที่ถี่ๆ ก็จะทำให้สามารถทนทานและรับน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
ในสมัยก่อนการเทคอนกรีตที่ต้องการรับแรงให้ได้มากขึ้นนั้นต้องนิยมใช้เหล็กเส้นมาวางและผูกต่อกันเป็นตะแกรง แต่เนื่องด้วยวิธีการและการใช้งานที่แสงยุ่งยาก สิ้นเปลืองค่าแรงงาน และเสียเวลาจึงมีการใช้ตะแกรงไวร์เมชแทน เพราะง่ายกว่าวิธีเก่า และยังประหยัดเวลาในการทำงาน
ขอบคุณข้อมูลจากeducationbuilding.wordpress.com