หน้าตัดของเหล็กเอช-บีมนั้นจะเป็นรูปตัวเอช (H) สมชื่อ แต่ให้สังเกตว่าส่วนที่เป็นขาตัวเอช หรือที่เรียกว่า “ปีก” (Flanges) นอกจากจะมีความหนากว่าแกนตรงกลาง ที่เรียกว่า “เอว”(web) แล้ว “ปีก”ยังมีลักษณะตรงเรียบ ความหนาคงที่ สัดส่วนหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส นิยมใช้เป็นโครงสร้างเสาและคาน เป็นหน้าตัดที่คนรู้จักคุ้นเคยเลือกใช้มากที่สุดชนิดหนึ่ง
TIS STANDARD : 1227-2558 Grade SS400, SS490, SS540, SM400, SM490, SM520
เหล็ก H Beam (เอช บีม) คือเหล็กรูปพรรณรีดร้อน ที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ และแข็งแรงกว่าเหล็กรูปทรงอื่น ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักและกระจายแรงได้อย่างทั่วถึง โดยจะใช้ในลักษณะเปลือยเหล็กมากกว่าหล่อคอนกรีตเสริมทับ เพื่อประหยัดเวลาก่อสร้าง และประหยัดค่าใช้จ่าย โดยมักใช้กับการออกแบบทีพักรีสอร์ทสไตล์ลอฟท์ และการสร้างร้านอาหาร ร้านกาแฟ
เหล็กชนิดนี้ใช้ทำบ้านกล่องโครงสร้างเหล็กได้ด้วย โดยใช้แผ่นซีเมนต์บอร์ดปิดทับไม่ให้เห็นเหล็ก แล้วจะปูกระเบื้องทับ หรือลงวัสดุปูพื้นอื่น ๆ ก็ทำได้ แต่ไม่เหมาะกับพื้นที่ใช้สอยที่ต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ ๆ บ่อย ๆ เพราะอาจทำให้กระเบื้องปูพื้นแตกเห็นโครงด้านล่างได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้งานลักษณะนั้นก็วางตะแกรงเสริมเหล็กและแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่อเสริมความแข็งแรงได้
ทำไมเหล็ก H – Beam จึงนิยมใช้สร้างโรงงานกับงานโครงสร้างบ้าน
เหล็ก H Beam ใช้ได้กับงานพื้นและอาคาร หรือโรงงาน ใช้ได้กับส่วนโครงสร้างทั้งหมดได้ดีทีเดียว แต่ช่างที่ถนัดประกอบ H Beam กับช่างรับเหมาก่ออิฐอาจจะต่างกัน เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกผู้รับเหมาก็ต้องดูประวัติการทำงานก่อนหน้าด้วยว่าเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างเหล็กหรือไม่?
การขึ้นโครงด้วยเหล็ก H Beam จะย่นระยะเวลาการก่อสร้างให้ไวขึ้น และเหมาะจะต่อเติมบ้านในเวลาอันรวดเร็วด้วย รวมถึงการสร้างบ้านหน้าฝน ที่อยากให้บ้านเสร็จเร็ว และแข็งแรง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ H Beam ช่วยได้ และหากกลัวว่าเหล็กจะเกิดสนิม ก็ต้องเลือกเหล็กที่ชุบสารเคลือบสนิม จากบริษัทที่น่าเชื่อถือ
อีกหนึ่งข้อดีที่ H Beam ชนะใจคนรักการต่อเติมบ้านก็คือ ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองรบกวนเพื่อนบ้านเวลาก่อสร้างเพิ่มเติมนั่นเอง และทิ้งพวกเศษปูนไว้น้อยกว่า หลังจากเสร็จงานจึงเก็บกวาดทำความสะอาดง่าย
เนื่องจากโครงสร้างรากฐานต้องแข็งแรง และหากสร้างบ้านบนเขา หรือแนวที่เป็นเขตเกิดแผ่นดินไหวบ่อย ๆ เหล็ก H Beam สามารถช่วยกระจายแรงให้ลดความเสียหายได้เยอะอีกด้วย
H Beam สร้างบ้าน ถามว่าดีมั้ย
เราอาจจะเคยเห็นบ้านกล่องเหล็ก ที่สร้างด้วยโครงเหล็กจำนวน 1 – 2 ชั้นเท่านั้น แต่การสร้างบ้านด้วยโครงเหล็กรับน้ำหนักนี้ทำได้มากกว่านั้น แต่ต้องได้รับการออกแบบจากวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง ผู้รับเหมาทั่วไปอาจจะทำไม่ได้ เพราะมีหลายจุดที่ต้องเช็คความแข็งแรง และวิศวกรต้องเป็นผู้เซ็นแบบถึงจะผ่านให้ก่อสร้างได้จกาหน่วยงานท้องถิ่น เช่นเดียวกับการต่อเติมบ้านที่ต้องแจ้งกับหน่วยงานท้องถิ่นด้วย
โดยสรุปแล้ว การสร้างบ้านด้วยเหล็ก H Beam นั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สิ่งที่ทำให้เป็นกังวลก็คือที่มาของวัสดุและฝีมือการเชื่อมเหล็กของผู้รับเหมา ที่ทางเจ้าของบ้านต้องตรวจสอบให้ดี และหากใช้เหล็ก H Beam เป็นโครงสร้างหลักทั้งหลัง หรือแม้กระทั่งต่อเติม จะลดระยะเวลาการก่อสร้างได้มาก ไม่เกี่ยวกับปัญหาการรั่วซึมว่าจะมีมากกว่าหรือน้อยกว่าบ้านก่ออิฐ เพราะปัจจุบันนี้ได้มีวัสดุหลายอย่างออกแบบมาเพื่อพัฒนาการสร้างที่อยู่อาศัย ให้เสร็จเร็วและแข็งแรงยิ่งขึ้น
ขนาดและน้ำหนักของ เหล็กเอชบีม
| ชนิดของเหล็กรูปพรรณ | ขนาด (มม.) | น้ำหนัก กก./เส้น |
| เหล็กเอชบีม (H Beam) | 100 x 100 x 6 x 8 ยาว 6 เมตร | 103.20 |
| 125 x 125 x 6.5 x 9 ยาว 6 เมตร | 142.80 | |
| 150 x 150 x 7 x 10 ยาว 6 เมตร | 189.00 | |
| 175 x 175 x 7.5 x 11 ยาว 6 เมตร | 241.20 | |
| 200 x 200 x 8 x 12 ยาว 6 เมตร | 299.40 | |
| 250 x 250 x 9 x 14 ยาว 6 เมตร | 434.40 | |
| 300 x 300 x 10 x 15 ยาว 6 เมตร | 564.00 | |
| 350 x 350 x 12 x 19 ยาว 6 เมตร | 822.00 | |
| 400 x 400 x 13 x 21 ยาว 6 เมตร | 1032.00 |
หากต้องการใช้เหล็กเป็นโครงก่อสร้างบ้านด้วยเหล็ก H Beam เหล็กก่อสร้างรูปพรรณทุกชนิด สามารถโทรมาสอบถามข้อสงสัยการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กโครงสร้างเฮชบีม สามารถติดต่อที่ 02 749 1007-14 ได้ในเวลาทำการครับ
