อุตสาหกรรมเหล็กโลกเริ่มส่งสัญญานฟื้นตัวดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นในช่วงต้นปี 2017
ยอดการผลิตเหล็กดิบในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดการผลิตเหล็กดิบสะสมอยู่ที่ 550.8 ล้านตัน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดการผลิตเหล็กดิบของจีน สหรัฐฯ เยอรมัน และอินเดีย ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงสี่เดือนแรกปีนี้
การใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นไปที่ 73.6% ในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2560 จากที่ลดลงเหลือเพียง 64.9% ในเดือนธันวาคม 2015
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI เดือนพฤษภาคม 2017 ในประเทศหลักๆ ถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคำสั่งซื้อสินค้าที่เกิดขึ้นจริงดีกว่าผลที่ได้จากการสำรวจ
อัตราการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมการผลิต ส่งสัญญานเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมเหล็ก โดยภาคอุตสาหกรรมการผลิตในจีนขยายตัว 6.5% สหรัฐอเมริกาขยายตัว 2.2% เยอรมันขยายตัว 1.8% และรัสเซียขยายตัว 2.4% ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีที่มีการใช้จ่ายในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การเปลี่ยนสะพานเก่าและโครงสร้างเก่าอื่นๆ การสร้างถนน และทางรถไฟใหม่ๆ การตั้งเมืองใหม่ในจีน ท่าเรือใหม่ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ซึ่งจะส่งผลทำให้ความต้องการใช้เหล็กเพิ่มขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งมีสัดส่วนการบริโภคประมาณ 25% ก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวลดลง รายได้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น การคมนาคมขนส่งที่สะดวก และราคาสินค้าที่สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะในยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
ราคาวัตถุดิบมีความผันผวนน้อยลง เนื่องจากราคาสินแร่เหล็กและถ่านโค้กปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ โดยราคาสินแร่เหล็กและถ่านโค้กเฉลี่ยอยู่ที่ $55-60 ต่อตัน CFR China และ $150-155 ต่อตัน FOB Australia ตามลำดับ คาดว่าราคาวัตถุดิบจะลดลงอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้าเนื่องจากความต้องการเหล็กของประเทศจีนมีแนวโน้มลดลง
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของโลก เช่น ArcelorMittal, Baosteel, Posco, Nippon and Mitsubishi และ Severstal ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางการเงินที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่นๆ ของประเทศต่างๆ ที่ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กต่างคลายความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้
สรุปภาพรวมในปีนี้นักวิเคราะห์หลายคนต่างมองว่าอุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกน่าจะเริ่มส่งสัญญานฟื้นตัว หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่รุนแรง
แปลและเรียบเรียงโดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย
Cr : Financial Express