สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (CISA) คาดระดับราคาผลิตภัณฑ์เหล็ก ภายในประเทศจีนมีแนวโน้มผันผวน อยู่ในระดับสูงจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากผู้ผลิตเหล็กทางตอนเหนือของจีนลดการผลิตลงในช่วงฤดูหนาว แม้อุปสงค์เหล็กภายในประเทศจะลดลงตามฤดูกาล
ดัชนีราคาเหล็กจีนปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนธันวาคม โดยดัชนีราคาเหล็กทรงยาวเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ดัชนีราคาเหล็กทรงแบนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.9%
สมาคมเหล็กจีนฯ คาดการณ์ว่าความต้องการใช้เหล็กในช่วงสองสามเดือนข้างหน้ามีแนวโน้มทรงตัวเนื่องจากอุตสาหกรรมผู้ใช้ปลายทางมีความการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
ระดับสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับต่ำบ่งชี้ว่าอุปสงค์เหล็กจีนยังคงแข็งแกร่ง โดยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปริมาณสินค้าคงคลังเหล็กของจีนอยู่ที่ 8.36 ล้านตัน ลดลงประมาณ 1.63 ล้านตัน หรือ 16.35% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้สังเกตุการณ์ในตลาดคาดการณ์ว่าอุปทานเหล็กเดือนธันวาคมมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากเดือนหน้าเนื่องจากผู้ผลิตทางตอนเหนือของประเทศปรับลดการผลิตลงในช่วงฤดูหนาว
ยอดการผลิตเหล็กดิบเฉลี่ยรายวันของจีนเดือนพฤศจิกายน 2017 ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลจีนในทุกระดับพยายามที่จะลดภาวะมลพิษทางอากาศในช่วงฤดูหนาว
สมาคมเหล็กจีนฯ รายงาน ยอดส่งออกเหล็กของจีนเดือนพฤศจิกายน 2017 อยู่ที่ 5.35 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7.4% m-o-m หลังจากที่ร่วงลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน อย่างไรก็สมาคมเหล็กจีนฯ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้ยากที่จะเห็นยอดส่งออกเหล็กจีนขยายตัวในปีนี้เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าการขายเหล็กในประเทศได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการส่งออก
แหล่งที่มา : Steelhome