บ้าน ที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ส่วนใหญ่ มักจะต้องการที่จะมีสนามหญ้าสวย ๆ รอบบ้าน ปลูกต้นไม้ พองามไว้ชมยามเช้า หรือ วันหยุด เพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ แต่พอทำเข้าจริง ปัญหาที่เราลืมคิดไปก็เกิดขึ้น ด้วยที่หญ้าโตไว ไม่ทันสังเกต ทำให้รก บดบังทัศนียภาพต่างๆ ดูรอบไม่สวยงามเหมือนบ้านไม่มีชีวิตชีวา สวนที่เคยสวยงามเมื่อปลูกครั้งแรก ก็ถูบดบังด้วยต้นหญ้าสูง เวลาผ่านไปไม่นาน กลับการเป็นดงหญ้าที่ยากต่อการดูแล เราต้องจ้างช่างมาตัดตกแต่งให้เหมือนเดิม ต้นไม้ที่ปลูกริมรั่ว ริมสนามหญ้าสวยๆ ก็ ขาดการดูแล ต้องจ้างคนดูแลเช่นกัน งบประมาณต้องเปลืองขึ้นทุก เดือน แถมยังไม่ค่อยมีเวลาออกมานั่งเล่นนอกบ้าน เพราะงานรัดตัวเราควรจะเทพื้นไปเลยดีไหม แล้วจะเทอย่างไร ให้เหมาะกับบ้าน และ สวนเราดี ปัจจุบันหลายบ้านจึงนิยมที่จะเทพื้นบ้านเป็นพื้นเรียบด้วยปูน เพื่อเป็นการประหยัดและ ลดค่าใช้จ่ายในการตัดหญ้าดูแลสวน ลดพื้นที่สวนลงให้อยู่ในกระถาง ง่ายต่อการดูแล
แล้ววิธีการในการเทพื้น นั้นต้องทำอย่างไร ใช้งบเท่าไหร่ เราลองมาดูวิธีและคำนวณกัน ขั้นตอนการเทพื้น เริ่มด้วย
เทพื้น |
1. ปรับพื้นที่ ที่จะทำการเท
การปรับพื้นที่ให้ เสมอกัน ถ้าเป็นพื้นที่ในบริเวณบ้าน ที่จอดรถ ที่ไม่มีหลังคา หรือ กลัวว่าน้ำจะขังเวลาล้างรถหรือฝนตก ให้เตรียมการทำการลาดเอียงไว้ในมุมที่ต้องการมองทางน้ำ ทางที่จะไหลออกให้สะดวก คำนวณทางไปของน้ำให้ดี ถ้าผิดพลาดการแก้ปัญหาจะยาก
2. ถมที่ตามระดับที่ต้องการ
การปรับพื้น ถ้าก่อนนั้นเคยปลูกหญ้าอยู่ก็ให้ถางหญ้าออก ดูความสูงต่ำของพื้นที่เราต้องการ ถ้าพอเหมาะอยู่แล้ว ก็ รดน้ำ อัดน้ำลงไปเพื่อให้พื้นแน่น ขึ้น แต่ถ้ามีการนำดินถม ทรายถมมาลงใหม่ ควรมีการอัดน้ำ รดน้ำทิ้งไว้หลาย ๆ วัน หมั่นตรวจดูด้วยการเดินในพื้นที่ ที่จะเทปูนว่าแน่ดีแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่แน่นพอ แล้วทำการเทพื้นลงไปอาจจะทำให้ พื้นทรุดตัวในวันหน้าได้
3. คำนวณการใช้วัสดุ
ถ้าเราจะเทพื้นเองก็ คำนวณ หิน ปูน ทราย ให้เหมาะสม ดูความต้องการว่า จะนำรถขึ้นมาเหยียบตรงที่เทด้วยหรือไม่ ความหนาของพื้นควรจะเท่าไหร่ อย่างน้อย ต้องมากกว่า 10 เซนติเมตร ถึงจะเหมาะสม นำรถเข้ามาเหยียบบริเวณนี้ได้
4. วางโครงสร้าง วัดระดับ
วางโครงสร้างที่จะเทให้พอดี วัดระดับให้สวยงามทำตำแหน่งตรงมุมต่าง ๆ ว่าจะให้สูงเท่าไหร่ ลาดเอียงไปทางไหน
5. วางตะแกรงเหล็ก
ปรับระดับพร้อมเทปูน นำตะแกรงเหล็กที่ปูพื้น มาวาง ตะแกรงเหล็กปูพื้น มีคุณสมบัติ ช่วยในการยืดเกาะปูนไม่ให้แตกร้าว เมื่อมีการขยับ หรือทรุดตัวของดินไม่มากนัก ตะแกรงเหล็กจะทำหน้าที่ยืดเกาะไม่ให้พื้นปูนที่เราเททรุดตัวลง
6. ผสมปูน
ผสมปูนส่วนที่ต้องการ (ในกรณีผสมเอง ไม่ได้ใช้บริการแบบสำเร็จรูป) ตรงนี้ต้องขอบอกว่าเป็นงานที่หนัก และ ปวดหลังพอสมควร แนะนำให้ หาผู้ช่วยมาช่วยหลาย ๆ ท่าน อัตราการผสม ส่วนใหญ่ จะมีบอกไว้ที่ข้างถุงปูนแต่ละชนิด ปูนแต่ละชนิดการผสมจะแตกต่างตามการใช้งาน ก็จะมีส่วนผสม หลักคือ ปูน หิน ทราย การผสมตรงนี้ ควรจะผสมระหว่าง ปูนกับทรายก่อนโดยยังไม่ต้องใส่น้ำ (กรณีนี้ผสมด้วยมือไม่ได้ใช้เครื่องผสม) ผสมให้เข้าเนื้อเดียวกัน แล้ว ทำวงกลมตรงกลาง ใส่น้ำลงไป ค่อยใส่หินที่หลังตามอัตราส่วน เพราะถ้าใส่หินลงไปก่อน จะทำให้การผสมนั้น หนัก และ เหนื่อยมาก
7. เทปูน
นำปูนที่ผสมแล้วไปเท เริ่มเทจากมุมที่สูงก่อนค่อย ๆ ไล่ไปตามทางที่ต่ำลาดเอียงลงไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการดูทางไหลของน้ำด้วย
8. ใช้ปูนแห้งเร็ว
การเทปูนลักษณะ นี้ นิยมใช้ปูนแห้งเร็ว เพราะจะทำให้ง่ายต่อการเท สะดวกเวลาแต่งผิวหน้าตอนท้าย ๆ แถมปัจจุบัน ยังมีปูนบางชนิดที่ สามารถเทตอนเช้า แล้ว ตอนเย็น ๆ รถสามารถจะขึ้นวิ่งได้ทันที ตรงนี้แล้วแต่เงินในกระเป๋าของท่านจะอำนวยความสะดวก
9. ขัดผิวหน้าให้เรียบ
พอเทเสร็จ รอผิวหน้าของพื้นแห้งหมาด ๆ ก็ทำการขัดหน้าพื้นผิว ให้ไม่มีเม็ดทรายโพล่ขึ้นมา หลาย ๆ ท่าน นิยมที่จะนำปูนเปล่า มาผสมทรายละเอียดเล็กน้อย ไว้เก็บงาน ด้านหน้าของพื้นผิว ทำให้ ด้านหน้าพื้นผิว สวย งาม ไม่มีเม็ดทรายหลุดออกมาเวลา เราเดิน หรือ รถขึ้นเหยียบ ขึ้นจอด
10. ถ้าจะปูกระเบื้องต้องทำพื้นผิวรอ
การแต่งผิวหน้าของพื้นนั้น ต้องดูต่อไปว่า เราจะทำการปูกระเบื้องต่อหรือไม่ ถ้าจะปูกระเบื้องต่อ ก็ควรจะทำผิวหน้าหยาบ ๆ ไว้ก่อน เพื่อให้ การปูกระเบื้องสามารถติดพื้นผิวได้ง่าย แต่ถ้าไม่ต้องการปูแล้วก็ จัดตกแต่งตามแต่ความต้องการให้เหมาะสมได้ ทันที
เพียงเราเทพื้นปูนเสร็จ พื้นที่ใช้สอย ก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องหญ้าที่ต้องดูแลกันต่อไป หมดปัญหาการต้องจ้างคนสวนมาดูแล บ่อย แล้วจัดต้นไม้ที่ชอบ ให้สวยงามลงกระถาง เท่านี้ก็สามารถจัดสวนสวย ใหม่ ให้พอเหมาะที่จะดูแลได้
การจัดตกแต่งบ้านในรูปแบบต่าง ๆ ก็มีหลายหลายวิธี วิธีการแก้ปัญหา เรื่องบ้านก็มีหลากหลาย ตามสไตล์ที่ต้องการ เพียงคำนวณ การ จัดการให้ดี งบประมาณก็ไม่บานปลายแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลhttps://www.babbaan.in