วิศวกรหลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับ การเลือกใช้งาน เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ว่าห้ามใช้ ค่ากำลังคราก ( Yieid Strength ) ไม่เกิน 240 เมกาปาสกาล (2,400 กิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร) ในการออกแบบอาคารโครงสร้างเหล็ก ซึ่งขัดแย้งกับ มาตรฐาน มอก 1227 – 2558 และ มอก เหล็กรูปพรรณ ฉบับอื่นๆ ว่า ผู้ผลิตสามารถผลิตเหล็กได้หลากหลาย ชั้นคุณภาพ อาทิเช่น
SS400 มาตรฐานระบุ กำลังครากไม่น้อยกว่า 245 เมกาปาสกาล (ประมาณ 2,400 กิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร)
SM520 มาตรฐานระบุ กำลังครากไม่น้อยกว่า 365 เมกาปาสกาล (ประมาณ 3,600 กิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร)
SS540 มาตรฐานระบุ กำลังครากไม่น้อยกว่า 400 เมกาปาสกาล (ประมาณ 4,000 กิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร)
แท้จริงแล้ว ข้อจำกัดในการ คำนวณออกแบบรับแรงของเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ว่า ห้ามใช้ ค่ากำลังคราก ( Yieid Strength ) ไม่เกิน 240 เมกาปาสกาล (2,400 กิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร) อ้างอิงตาม “กฎกระทรวง ฉบับที่ 6 ( พ.ศ.2527 ) ออกตามความใน พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 13” นั้นหมายถึงแค่ “ในกรณีที่ไม่มีผลการทดสอบกำลัง” หมายความว่า หากเหล็กโครงสร้างรูปพรรณนั้นๆ มีเอกสารรับรองการผลทดสอบจากผู้ผลิต ( Mill Inspection Certificate ) ที่ได้รับใบอนุญาตผลิตตาม มาตรฐาน มอก. แล้ว ก็สามารถออกแบบใช้งานได้ตามค่ากำลังคราก ( Yieid Strength ) ของเหล็กตามชั้นคุณภาพนั้นตามที่ระบุไว้ตาม เอกสารรับรองการผลทดสอบ
กล่าวโดยสรุป เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน กำลังสูง SM520 ที่มีค่ากำลังคราก Source : กฏกระทรวง ฉบับที่ 6 พ.ศ.2527 (ออกตามฯ พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522) ข้อที่ 13
กฎกระทรวง ฉบับที่ 6 พ.ศ.2527 (ออกตามฯ พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522) ข้อที่ 13
เมื่อมีการเปรียบเทียบโครงสร้างเหล็กทั่วไปอย่าง SS400 กับ เหล็กกล้ากำลังสูง SM520 ซึ่งทำให้เห็นชัดเจนขึ้นถึงความคุ้มค่าที่จะได้ต่อโครงการ ทั้งการออกแบบและก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ
1. ช่วยลดต้นทุนได้มากกว่า ช่วยลดค่าขนส่ง และ Fire Protection รวมกันสูงสุดถึง 20%
2. ลดเวลาและต้นทุนงานฐานราก เมื่อมีการใช้ SM520 นอกจากจะทำให้น้ำหนักของโครงสร้างเสา คาน และโครงหลังคา เบาลง ซึ่งน้ำหนักที่เบาลงนี้ ยังส่งผลโดยตรงถึงการช่วยลดขนาดฐานราก และจำนวนเสาเข็มในงานก่อสร้างโครงสร้างด้วย
3. สร้างงานออกแบบได้หลากหลายกว่า งานโครงสร้างที่ต้องการออกแบบ Long Span หรือ Cantilever เหล็ก SM520 จะช่วยให้สถาปนิก วิศวกร ออกแบบโครงสร้างอาคารได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
4. เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่า เสาเล็กลง ทำให้ดูมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้น คานเล็กลง – ทำให้มีระยะ Celling Height เพิ่มขึ้น มีผลให้อาคารโปร่งโล่ง ดูกว้างมากยิ่งขึ้น
5. ติดตั้งง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ในขั้นตอนการติดตั้ง นั้น SM520 จะมีน้ำหนักโครงสร้างที่น้อยกว่า SS400 จึงสะดวกในการใช้ Crane ยกติดตั้ง หรือใช้กำลังของ Crane น้อยลงได้ และลดจำนวนรอบในการขนส่งได้อีกด้วย
SM520 เหล็กกล้ากำลังสูง คือโครงสร้างที่สามารถให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเหล็กโครงสร้างทั่วไปช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง รวมไปถึงยังสามารถลดขนาดของโครงสร้างเสา คาน และโครงหลังคาที่ส่งผลต่อการติดตั้งและการออกแบบ จึงไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใด SM520 จึงเป็นที่นิยมกันอย่างมากในวงการออกแบบและก่อสร้าง
ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.hbeamconnect.com