Product Description
การนำไปใช้งาน
เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide Flange Steel) เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง ก่อสร้างอาคาร โรงงานขนาดใหญ่ และงานเชื่อม
ขนาดเหล็กไวด์แฟรงค์
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 150 x 75 x 5 x 7 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 84.00 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 148 x 100 x 6 x 9 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 126.60 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 200 x 100 x 5.5 x 8 มม.X 6 ม. น้ำหนัก 127.80 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 194 x 150 x 6 x 9 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 183.60 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 250 x 125 x 6 x 9 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 177.60 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 300 x 150 x 6.5 x 9 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 220.20 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 244 x 175 x 7 x 11 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 264.60 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 350 x 175 x 7 x 11 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 297.60 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 294 x 200 x 8 x 12 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 340.80 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 400 x 200 x 8 x 13 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 396.00 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 450 x 200 x 9 x 14 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 456.00 กก./เส้น
-
เหล็กไวด์แฟรงค์ ขนาด 500 x 200 x 10 x 16 มม. X 6 ม. น้ำหนัก 537.60 กก./เส้น
เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide- Flange)
เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide- Flange) สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป และงานเชื่อม มีรูปทรงลักษณะเดียวกับ ไอบีม แต่มีขนาดบางกว่า นิยมใช้สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป และงานเชื่อม
เหล็กไวด์แฟรงค์ หรือที่เรียกกันก็คือ Wide Flange Beam ในภาษาอังกฤษ เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเหล็กโดยเฉพาะ และมีรูปร่างสวยงามในงานก่อสร้างอีกทั้งยังให้ความคงทนสูงเพราะมีความแข็งแรงมาก สำหรับประเทศไทยเกรดส่วนใหญ่ที่ได้นำไปใช้งานคือ SS400,SS540 ลักษณะพิเศษของเหล็กไวด์แฟรงค์ ต่างจากเหล็กไอบีมคือส่วนของปีกเหล็ก และโคนปีกนั้นจะหนาเท่ากัน ดังนั้นจะสังเกตุได้ว่ามี รัศมีหรือ R เพียงตัวเดียว
เหล็ก เอชบีม เฮชบีม H-beam ไวด์แฟรงค์ Wide Flange ไอบีม I-beam ต่างกันอย่างไร? เหล็กทั้ง 2 หน้าตัดนี้ มีข้อแตกต่างกันอยู่ 2 ด้าน คือ
1 ด้านการนำไปใช้งาน
เหล็กเอชบีม H-beam ไวด์แฟรงค์ Wide Flange และ จะนำไปใช้ในงานก่อสร้างอาคาร เป็นชิ้นส่วนของ เสา คาน โครงหลังคา ฯลฯ เหล็กไอบีม I-beam จะนิยมนำไปทำรางเคน Crane Girder ที่ไว้ใช้ยกของที่มีน้ำหนักมาก
2 ด้านลักษณะรูปร่าง
จุดแตกต่างของเหล็กทั้ง 2 หน้าตัด คือ ปีก Flange ทั้งบนและล่างของเหล็ก H-beam จะเป็นแผ่นเรียบหนาเท่ากันตลอด เป็นรูปตัว H เท่ากันทั้งปีกและส่วนเสา ส่วนเหล็กเสาไวด์แฟรงค์ Wide Flange จะ มีความหนาเท่ากันตลอดเช่นกัน แต่ส่วนปีก จะมีความกว้างไม่เท่ากับความกว้างเสา ส่วนของเหล็กไอบีม I-beam ทั้งปีกบนและล่างจะเป็นแผ่นเอียง หรือ Taper Flange ซึ่งขนาดหน้าตัดเหล็กที่เท่ากัน I-beam จะมีน้ำหนักต่อเมตรสูงกว่า H-beam เนื่องจากเหล็ก I-beam จะมีความหนาของเหล็กมากกว่าเพื่อรองรับแรงกระแทก และการเคลื่อนที่จากรางเครน
คุณสมบัติของเหล็กไวด์แฟรงค์
– สามารถรับแรงในแนวต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ
– การหลอมและรีดร้อนขึ้นเป็นท่อน เหล็กโครงสร้างชนิดนี้จึงมีเนื้อเดียวกัน ไม่มีรอยเชื่อมระหว่างส่วนต่างๆ ดังนั้นคุณสมบัติของหน้าตัดจึงสม่ำเสมอกว่าเหล็กโครงสร้างชนิดอื่น
– เหล็กรูปพรรณไวด์แฟรงค์มีน้ำหนักที่เบากกว่าโครงสร้างคอนกรีต
ประโยชน์ของ Wide Flange ที่มีต่องานก่อสร้าง
– นิยมในงานโครงสร้าง ซึงนำมาใช้แทนโครงสร้างคอนกรีต เพราะการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ลดขั้นตอนการทำงาน การดูแลรักษาที่ทำได้ง่ายกว่า และมีสไตล์ที่โดดเด่นกว่า
– เหล็กไวด์แฟรงค์สามารถการรับแรงในแนวต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าโครงสร้างคอนกรีต เหมาะสมโครงสร้างทั่วไป ทั้งในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ เสา คาน ไวด์แฟรงก์ที่มีมาตรฐานต้องได้รับ มอก.
– Wide Flange สามารถออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลายเช่น ตัดโค้ง ทำใครงสร้างโปร่ง หรือทำส่วนยื่่นได้มาก
– เหล็ก WF เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง ก่อสร้างโรงงาน สร้างโกดังขนาดใหญ่ และงานเชื่อมต่างๆ
เหล็กเอชบีม และ Wide Flange แตกต่างกันอย่างไร?
ที่ผ่านมาอาจมีความสับสนในกลุ่มผู้ใช้งานเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H ว่ามีชื่อเรียกว่าอย่างไร บ้างก็เรียก H-Beam บ้างก็เรียก Wide Flange ผู้ใช้งานหลายท่าน เข้าใจว่าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H ที่มีขนาดความลึกเท่ากับความกว้าง เช่น H 200×200 เรียกว่า H-Beam และ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H ที่มีขนาดความลึก มากกว่าความกว้าง เช่น H 400×200 เรียกว่า Wide Flange ความจริงแล้วต้องเรียกอย่างไรกันแน่ ?
หากยึดตามสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ที่กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มอก. 1227 ฉบับล่าสุด ซึ่งระบุไว้ว่าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H ให้เรียก เหล็กรูปตัวเอช ( H-Section Steel ) หรือ “H-Beam” โดยหน่วยที่ใช้ระบุขนาดของ H-Beam เป็นหน่วยวัดในระบบเมตริก ( Metric system ) มีหน่วยวัดความยาวเป็น มิลลิเมตร ( mm. ) เช่น H 200x100x5.5×8 mm. , H 300x300x10x15 mm. ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าขนาดหน้าตัดที่มีสัดส่วน ความลึกกับความกว้าง เท่าหรือไม่เท่ากันก็ตาม จะเรียกเหมือนกันว่าโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H หรือ H-Beam นั่นเอง
ส่วนเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ที่เรียกกันว่า Wide Flange แท้จริงแล้วเป็นการเรียกเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนรูปตัว H ตามมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) A6 “Standard Specification for General Requirements for Rolled Structural Steel Bars, Plates, Shapes, and Sheet Piling” ซึ่งได้ระบุไว้ว่าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H ให้เรียก “W-Shape” หรือ “Wide Flange” โดยหน่วยที่ใช้ระบุขนาดของ Wide Flange เป็นหน่วยวัดอังกฤษ ( Imperial units ) เช่น W 8”x4” , H6”x6” มีหน่วยวัดความยาวเป็น นิ้ว ( inch. ) ซึ่งในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าขนาดหน้าตัดจะมีสัดส่วน ความลึกกับความกว้าง เท่าหรือไม่เท่ากันก็ตาม ถ้ายึดตามมาตรฐาน ASTM เราเรียกเหล็กชนิดนี้ว่า Wide Flange
ซึ่งสรุปได้ว่าการเรียกชื่อเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดรูปตัว H นั้น สามารถเรียกได้ทั้งสองชื่อขึ้นอยู่กับว่า เหล็กโครงสร้างรูปพรรณนั้นผลิตตามมาตรฐานใด ซึ่งทั้งสองมาตรฐานนั้น ระบุวิธีเรียกและใช้หน่วยในการวัดแตกต่างกัน แต่สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยนั้น มักจะเรียกเหล็กชนิดนี้ว่า H-Beam ตามที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทยระบุไว้
______________________________________________________________________________________
เงื่อนไข :
1. ราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากต้องทำการเช็คราคาและสต๊อกก่อนสั่งซื้อ
2. ราคาที่เสนอเป็นราคาพิเศษ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับเปลี่ยนหรือคืนสินค้า
3. ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าขนส่ง กรณีรับสินค้าเอง –> รับที่คลังสินค้า อำเภอ บางปะกง จังหวัด ฉะเชิงเทรา *