google.com, pub-1539147387772263, DIRECT, f08c47fec0942fa0
งานก่อสร้างบ้านราคาถูกกับชีวิตจริงของคนเขียนแบบ

งานก่อสร้างบ้านราคาถูกกับชีวิตจริงของคนเขียนแบบ

จากการแจกแบบฟรีให้กับสมาชิกหลาย ๆ ท่าน ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านตามแนวความคิดของผมนั้น ทุกท่านต่างถามหารายการวัสดุพร้อมยื่นกู้ธนาคาร และยินดีช่วยเหลือ การแบ่งปันแบบบ้านในครั้งนี้ ดังนั้นผมจึงขอขายในราคาปรกติตามลิงค์นี้ครับผม  https://www.thaidrawing.com/?p=27411 พร้อมชมแบบบ้านแล้วเสร็จ

  1. แบบบ้าน Modern Home Office พร้อมก่อสร้าง
    – แบบสถาปัตยกรรม
    – แบบโครงสร้าง
    – แบบไฟฟ้า
    – แบบประปา
  2. รายการวัสดุ หรือ Boq สำหรับยื่นกู้ธนาคาร
  3. จัดส่งฟรี Ems ทั่วประเทศ

จากรายการข้างต้นไม่ได้หมายความว่าท่านจะดาวน์โหลดแบบบ้านของเราไม่ได้นะครับ ท่านยังสามารถดาวน์โหลดได้ตามปรกติ ตามแบบเดิมที่เคยแจกครับ แต่สิ่งที่ผมขายนั้น สำหรับลูกค้าที่คิดว่าราคานี้เหมาะสมและคุ้มค่ากับเงินของท่านครับ

ด้านหน้าของงานมุงแผ่นหลังงคาบ้าน

รูปด้านหน้าของงานมุงแผ่นหลังงคาบ้าน

Porthongkom-house-farm-2วันนี้ผมได้ตัดสินใจที่จะสร้างบ้านสำหรับตนเองและภรรยาที่อยู่ด้วยกันมาถึง 6 ปีแต่ก็ยังไม่มีบุตร สำหรับบทความนี้ผมจะพูดถึงแนวคิดในการสร้างบ้านราคาถูกด้วยตัวผมเอง จริง ๆ ผมก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร เพราะฉะนั้นการจะสร้างบ้านนั้นผมต้องได้อยู่ในงบประมาณที่มี

  1. ผมได้เลือกแบบบ้านที่ผมได้ออกแบบให้กับอาจารย์ของผมเองเป็นแบบบ้าน Modern Home Office และแบบที่ผมเลือกด้วยเหตุผลดังนี้..
  • มีกันอยู่แค่สองคน เพราะฉะนั้นต้องเป็นแบบห้องนอนเดียว และ 1 ห้องน้ำ
  • เป็นแบบบ้านชั้นเดียว เพราะต้องการความประหยัดในการก่อสร้าง
  • มีสถานที่สำหรับจัดสอนงานเขียนแบบที่ผมจะเปิดสอนหากทำแบบบ้านหลังนี้เสร็จ
  • ไม่ใหญ่มากและไม่เล็กจนเกินไป เน้นแบบอบอุ่น ดูแตกต่างจากเพื่อนบ้าน

สิ่งที่ท่านจะได้รู้และได้เห็นคือวิธีการทำงานในรูปแบบของผมเองที่จะนำมาเผยแพร่ให้ทุกท่านได้ดูเป็นตัวอย่างถึงหลักการณ์สร้างบ้านราคาถูก ซึ่งผมจะพูดตั้งแต่งานถมดิน ไปจนสร้างเสร็จเลยทีเดียวครับ

สิ่งนึงที่ผมคิดไว้อยู่เสมอก็คือ ผมมองที่ตัวเองก่อนครับว่าผมเองนั้นต้องการอะไรบ้างในชีวิต ไม่ต้องเผื่อมาก คนไม่มีลูกอย่างผมจึงไม่ต้องการอะไรมากมายเท่าไรนัก เมื่อเรามองตัวเองแล้วก็ต้องมองสิ่งรอบตัวว่าเรามีอะไรบ้าง มีเงินแค่ไหน มีกำลังในการทำงานแค่ไหน ไม่สนใจเพื่อนบ้านที่มีอาชีพการงานที่ดีกว่า แต่ผมจะมองสิ่งที่ตนเองมี ผมก็ทำไปตามนั้นครับ ซึ่งตอนนี้ผมมีเงินอยู่กับตัวเพียง 100,000 บาทและผมพร้อมที่จะเริ่มสร้างบ้านหลังนี้ และผมจะไม่หยิบยืมเงินหรือกู้ธนาคาร หรือนายทุนใดใด เรียกว่าตามกำลัง และอยู่กับสิ่งที่ตนเองมี

รีวิว แบบบ้าน Modern Home Office กันสักเล็กน้อยครับผม

ด้านหน้าแบบเต็ม ๆด้านหน้าตกแต่งจัดสวนหลังคาบ้านรูปด้านหน้ากำลังตกแต่งด้านหน้าก่อนตกแต่งรูปด้านหน้า Modern Home Officeภาพแบบบ้านโดยรวมครับ ดูหลาย ๆ มุมมอง และดูทรงหลังคาให้ชัดเจน เป็นแบบบ้านเรียบง่ายเน้นการก่อสร้างที่ดูแตกต่างจากชาวบ้านแถวนี้ที่ขึ้นบ้านกันเป็นทรงจั่วเสา 9 ต้น แต่เรื่องราคาค่าก่อสร้างของแบบบ้านชุดนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับแบบบ้านของคนชนบทเลยแม้แต่น้อย ผมเคยถามผู้รับเหมาแถวนี้แล้วนะครับ ค่ายกบ้านพร้อมมุงหลังคาแต่ยังไม่เทคานคอดินอยู่ที่จำนวนเสาครับ 1800-2500 ต่อต้น

เรามาเริ่มกันก่อนเลยดีกว่าครับ โดยก่อนเริ่มเราต้องมีแผนอยู่ในใจไม่ใช่ทำไปคิดไป เราต้องคิดก่อนแล้วค่อยลงมือทำ และแบบบ้านหลังนี้ผมจะใช้สำสำเร็จรูปหน้า 15 ซม. เพื่อช่วยให้ประหยัดค่าแรงในการก่อสร้าง และเวลาในการก่อสร้างอีกด้วยครับ แต่อย่างไรก็ยังคงฐานรากไว้เหมือนเดิม

  1. เริ่มจากแบบบ้านก่อนครับ ผมได้นั่งทำแบบบ้าน เขียนแบบบ้าน และจัดวางระยะต่าง ๆ โดยเริ่มจากการเขียน ผังบริเวณให้กับบ้านว่าจะตั้งบ้านไว้ตรงจุดไหนของที่ดิน ซึ่งที่ดินผมมีทั้งหมด 7 ไร่ในการปลูกสร้างบ้านหลังนี้ เนื่องจาก ผมจะแบ่งพื้นที่ด้านหน้าให้เป็นพื้นที่สำหรับปลูกบ้านส่วนด้านหลังจะเป็นงานสวนทั้งหมด โดยจะปลูกพืชที่สามารถกินและสร้างรายได้ให้กับตนเองเป็นหลัก
    • ดาวน์โหลดแบบบ้านแบบอัปเดทเรื่อย ๆ ฟรี ( หากใครเห็นใจสามารถบริจาคได้ครับที่ ติดต่อเรา 500.- ก็ได้ครับเป็นค่าแบบ ค่าเขียนแบบสำหรับผู้ที่จะนำไปก่อสร้าง ไม่ได้บังคับนะครับตามสบาย และท่านใดที่นำไปสร้างจริง ช่วยส่งรูปมาให้ดูหรือนำมารีวิวบนเว็บด้วยนะครับผมที่ touchourdesign@gmail.com  )- ไฟล์แบบบ้าน สวนพ่อทองคำ ประจำวันที่ 23-1-2556 ( พร้อมโหลด….)
      – ไฟล์แบบบ้าน สวนพ่อทองคำ ประจำวันที่
      * ไม่ใช่สมาชิกจะดาวน์โหลดไม่ได้นะครับ อย่างไรก็สมัครสมาชิกกันก่อนครับผม เสร็จแล้วก็เข้าระบบ แล้วค่อยมากดโหลด
  2. ปรับดิน : บ้านหลังนี้ผมยกพื้นที่ 50 เซนติเมตรและผมจะเทคานหน้า 15 x 50 ซม. วางไว้บนพื้นดิน แล้วเข้าแบบดังนั้นผมจึงยกพื้นดินขั้นมาจากพื้นดินเดิมประมาณ 40 เซนติเมตรเพื่อให้ดูเป็นบ้านยกพื้นสูง แต่ผมไม่สร้างแบบยกพื้นสูงเพราะค่าก่อสร้างจะสูงตามทำให้เงิน 100,000 บาทในการเริ่มต้นสร้างบ้านของผมนั้นไม่เพียงพอกับการสร้างบ้าน ( ไม่ได้หมายความว่า 100,000 บาท ) จะสร้างบ้านเสร็จนะผมจะสร้างไปเรื่อย ๆ ด้วยกำลังของตนเองและเน้นทำเองเพื่อให้ได้บ้านที่ถูกที่สุด และมั่นคงแข็งแรงในแบบฉบับของผมเอง
    • งานปรับดินให้ได้ระดับดินสูงผมใช้รถไถนาของน้องชายครับ เป็นรถไถฟอร์ด ซึ่งผมต้องเริ่มแบบไม่ต้องนำดินเข้ามา เพื่อลดต้นทุนในการทำงาน ผมจ่ายค่าคนขับไป 500 บาท และเติมน้ำมันให้น้องชายไป 20 ลิตรหรือ 600 บาท งานปรับดินผมลงทุนไป 1,100 บาทผมก็ได้พื้นที่พร้อมปลูกบ้าน
    • เนื่องจาก ณ. ตอนนี้เป็นฤดูแล้งดินจะแข็งและร่วนเป็นฝุ่น เมื่อเรานำดินมาปรับถมแล้วไม่บดอัด จะเกิดโพรงและอากาศในดิน เวลาขุดหลุมก็จะลำบากมากเพราะจะขุดเป็นรูปสี่เหลี่ยมไม่ได้ ( นึกถึงตอนเราขุดหินที่กองไว้ ) หรือ จะขุดเพื่อเป็นแบบในการเทฐานรากไม่ได้ ดังนั้น ผมต้องสูบน้ำใส่ครับ เพื่อให้ดินอิ่มตัวและทรุดเพื่อลดช่องว่างหรือโพรงอากาศ ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลา ผมปั้นคันดินเพื่อกักน้ำ และสูบน้ำใส่จนเต็มทิ้งไว้ กะว่าพอดินแห้งหมาด ๆ แล้วจะเริ่มขุดหลุมเพื่อเทฐานรากSoil-for-porthong-house

    เนื่องจากว่าดินนั้นเป็นดินเหนียวเมื่อถูกน้ำเข้าไปทำให้หน้าดินละลายกลายเป็นเนื้อโคลนเหนียวทำให้น้ำไม่สามารถลงไปถึงดินชั้นล่างได้ ผมก็ได้แช่น้ำไว้อย่างนั้น รอสักสองอาทิตย์ก็จะนำรถไถขึ้นไปเหยียบให้แน่นและตอนนี้ก็ต้องรอเวลาครับ ไม่รีบร้อน และระหว่างการรอดินแห้ง ผมจักทำแบบบ้านหลังนี้ให้จบเพื่อทุกท่านจะได้นำไปก่อสร้างได้ครับ…

    ดินสูบน้ำใส่แตกระแหง

หลังจากที่ผมสูบน้ำใส่แล้วปรากฎว่าน้ำไม่สามารถซึมลงไปยังดินเดิมได้เนื่องจากพื้นที่เป็นดินเหนียว ดังนั้นผมจึงหยุดเพื่อให้น้ำชุดแรกแห้งหมาดก่อนปรากฎว่าดินแตกระแหงจึงเป็นการรอคอยที่ดิน เพราะเมื่อหน้าดินแตกระแหงแสดงว่าเป็นการดีถ้าเราสูบน้ำใส่อีกครั้งนึง คราวนี้น้ำต้องไหลลงซึมไปทั่วดินที่เราถมใหม่อย่างแน่นอนครับ ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีในการทำให้ดินทรุดตัวลงและสามารถขุด ขึ้นรูปโดยง้ายและบดอัดได้ด้วยการนำรถไถขึ้นไปเหยียบครับ ( รถไถหนักไม่ต่ำกว่า 4 ตัน )

หลังจากที่ผมได้ลดน้ำบนพื้นผิวดินไปแล้วกว่า 3 รอบดังนั้นผมจึงเห็นควรแล้วที่จะเริ่มวางผังปักหมุดกันได้แล้ว รายการต่อไปก็คือผมจะต้องไปซื้อเหล็ก RB 9 mm. มาและลวดผูกเหล็กพร้อมทั้งประแจดัดเหล็ก ผมเน้นทำเองเป็นส่วนใหญ่ครับ ค่อย ๆ สร้างไปเรื่อย ๆ และระหว่างนี้ผมก็สั่งทรายหยาบเข้ามาเตรียมพร้อมสำหรับการแทฐานรากไว้ก่อน

ทรายหยาบคิวละ 100 บาท

รายการวัสดุหรือ BOQ สำหรับแบบบ้าน Modern Home Office

  1. ค่าถมดิน 500 บาท
  2. ทรายหยาย 500 บาท ( 5 คิว ) นำรถ 10 ล้อของน้องชายไปบรรทุกมาจากท่าทรายเลย ไม่เสียค่าน้ำมันเนื่องจากเป็นฤดูการตัดอ้อย ท่าทรายอยู่ข้างถนน และทางผ่านพอดี จัดไปครับ

อัปเดทแบบบ้านกันสักเล็กน้อยครับ เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านครับ ต่อเติมห้องครัวออกทางหลังบ้านพร้อมห้องน้ำไปอยู่ในห้องครัวเพื่อเหลือพื้นที่ห้องพักผ่อนกว้างขึ้น หลังจากนั้นผมก็ย้ายประตูห้องครัวไปไว้ข้างนอกแทน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านครับ หลังจากปรับแบบบ้านแล้วพรุ่งนี้ไปซื้อเหล็กโครงสร้างกัน

ห้องครัวและห้องน้ำด้านนอกย้าน

ห้องครัวและห้องน้ำด้านนอกบ้าน

ด้านข้าง 4 มุมมองหน้าต่างด้านข้าง

ด้านข้าง 4 มุมมองหน้าต่างด้านข้าง

แปลนพื้นแสดงการต่อเติมแบบบ้าน

แปลนพื้นแสดงการต่อเติมแบบบ้าน

ด้านหลังแสดงการเปิดห้องครัวและกรงกันขโมย

ด้านหลังแสดงการเปิดห้องครัวและกรงกันขโมย

มุมมองเพื่อความสวยงามของบ้าน

มุมมองเพื่อความสวยงามของบ้าน

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.thaidrawing.com/10084.html

วิธีปลูกต้นเคราฤาษี ไม้ประดับเลี้ยงง่ายกันฝุ่นดูดความชื้นในบ้าน

วิธีปลูกต้นเคราฤาษี ไม้ประดับเลี้ยงง่ายกันฝุ่นดูดความชื้นในบ้าน

                หนึ่งในไม้ประดับที่ฮิตนำมาเพาะเลี้ยง ขยายพันธุ์ ก็คือต้นเคราฤาษี หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า  มอสสเปน โดยเฉพาะช่วงที่ภาวะฝุ่นมลพิษ PM 2.5 บุกเมือง พบว่าต้นเคราฤาษีจะช่วยดูดซับโลหะหนักและช่วยกรองลดฝุ่นละอองเข้าบ้านได้ เป็นวิธีสร้างสภาวะแวดล้อมบ้านน่าอยู่จากธรรมชาติได้ดี

วิธีปลูกต้นเคราฤาษี

วิธีปลูกต้นเคราฤาษี

                ต้นเคราฤาษีมีต้นเป็นสีเขียวเทา ลักษณะใบเป็นเส้น ๆ ห้อยลงสู่พื้น คล้ายหนวดฤาษี สามารถออกดอกได้แต่ดอกจะเล็กมาก และมีอายุเพียง 2-3 วันเท่านั้น

                 วิธีปลูกต้นเคราฤาษี ค่อนข้างง่าย ไม่ต้องใส่ปุ๋ยหรือดูแลรักษามากนัก เพราะรากที่มีของต้นเคราฤาษีนั้นมีไว้เพียงเพื่อยึดเกาะเท่านั้น แต่ไม่ใช่ตัวนำทางอาหารเหมือนต้นไม้อื่น ๆ โดยต้นเคราฤาษีสามารถอยู่ได้ด้วยการกินอาหารในอากาศทำให้สามารถดูแลตัวเองได้นั่นเอง แต่ถ้าอยากใส่ปุ๋ยให้เจริญงอกงามก็สามารถทำได้ด้วยการพรมละอองปุ๋ยใส่สัก เดือนละครั้ง

 

เทคนิคการเลี้ยงต้นเคราฤาษี

– ควรแขวนในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีลมพัด แสงแดดรำไร
– ต้นเคราฤาษีเป็นต้นไม้ต้องการน้ำ แนะนำให้รดเป็นละอองทุกวัน ในกรณีที่ฝนไม่ตก
– การให้ปุ๋ย สามารถทำได้โดยใส่ปุ๋ยผสมน้ำ ไม่ต้องเข้มข้นมาก วิธีเดียวกับที่ฉีดใส่กล้วยไม้ ให้ปุ๋ยเดือนละครั้ง ก็เพียงพอค่ะ
– ต้นเคราฤาษีต้องการ น้ำ ลม และแสงแดด

                  การขยายพันธุ์สามารถทำได้ง่ายๆ โดย เพียงเด็ดลำต้นที่ห้อยระย้า มาแขวนบนกิ่งไม้ หรือคาคบไม้ หรือวัสดุปลูกอย่างอื่น รดน้ำวันเว้นวัน แขวนไว้ในจุดที่มีลมถ่ายเท แสงแดดรำไร เพียงแค่นี้เคราฤาษีจะงอกงาม

 

ทำความรู้จักต้นเคราฤาษีให้มากขึ้น

                     เคราฤาษี หรือ มอสสเปน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tillandsia usneoides เป็นพืชในวงศ์สับปะรด ไม่มีราก ลำต้นห้อยย้อยลงมาจากคาคบไม้เป็นสายยาว เป็นเส้นเล็ก ๆ เวลาออกดอกกลิ่นหอมอ่อน ๆ พืชชนิดนี้ดูดน้ำโดยทางใบซึ่งมีสีเทาเงิน ต้นเคราฤาษีนั้นเป็นต้นไม้อากาศที่แขวนไว้แล้วจะดูดอาหารและแร่ธาตุจากอากาศ

                   และดูดน้ำจากน้ำค้างหรือน้ำฝนที่มาเกาะ จึงมักเลี้ยงเป็นไม้ประดับตกแต่งสวนเพื่อความสวยงาม แต่ทั้งนี้หนวดฤาษีอยู่ได้ด้วยการกินอาหารในอากาศ โดยปลูกด้วยการใส่กระถางแล้วนำไปแขวนไว้ตามจุดต่าง ๆ รอบๆ บ้าน 

              ช่วยดูดซับความชื้นที่ปนเปื้อนฝุ่น ปนเปื้อนสารเคมีในอากาศได้ดีกว่าใช้ผ้าม่าน หรือผ้าพลาสติก แถมยังกลายเป็นม่านป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ด้วย นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติไม่ติดไฟ ทำให้เหมาะนำมาทำเป็นวัสดุในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์อย่างเช่น นำมาทำเป็นไส้ในเบาะนั่งในรถยนต์หรือโซฟาแทนฟางข้าวหรือเยื่อเปลือกมะพร้าวอีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://decor.mthai.com/

จัดฮวงจุ้ยห้องนอนอย่างไรให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี ที่นี่มีคำตอบ!

จัดฮวงจุ้ยห้องนอนอย่างไรให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี ที่นี่มีคำตอบ!

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในบ้านคือห้องนอน เพราะเป็นที่ที่ใช้พักผ่อนให้เรามีแรงในการทำงานวันถัดไป ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ห้องนอนที่ดีจะส่งเสริมพลังงานดี ทำให้เรามีภูมิต้านทานที่แข็งแรง ตื่นนอนมาสดใส มีแรงไปทำงาน และแน่นอนเมื่อเราไปทำงานด้วยความรู้สึกที่ดีแล้ว หน้าที่ต่างๆ ก็จะสำเร็จลุล่วงได้ไม่ยาก ส่งผลให้เงินทองไหลมาเทมา

แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณพบว่าหลังจากนอนแล้ว ร่างกายยังอ่อนเพลีย เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ่อยๆ หรือมีอารมณ์หงุดหงิดง่ายจนเป็นอุปสรรคในการทำงาน การจัดห้องให้ตรงตามฮวงจุ้ยห้องนอนอย่างที่เรารวบรวมไว้ข้างล่างนี้สามารถช่วยคุณได้แน่นอน

ฮวงจุ้ยห้องนอน ทิศทางเตียง

ฮวงจุ้ยห้องนอนกับทิศทางของเตียง

อันดับแรกที่จะพูดถึง ฮวงจุ้ยห้องนอน คือ เรื่องของทิศทางห้องนอนและเตียงนอน โดยตำแหน่งของห้องนอนนั้นไม่ควรมีห้องน้ำอยู่ด้านบนห้องหรืออยู่เหนือตำแหน่งเตียง เพราะห้องน้ำถือเป็นที่ระบายสิ่งสกปรก ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนแล้วผู้อาศัยจะได้รับพลังงานลบ เหมือนได้รับของเสียจากห้องน้ำอยู่เป็นประจำ

ส่วนการจัดประตูห้องนอนก็ควรใช้หลักเดียวกัน นั่นคือห้ามอยู่ตรงกับประตูห้องน้ำเด็ดขาด เนื่องจากพลังงานที่แย่จากห้องน้ำจะเข้ามาชนกับประตูห้องนอน นอกจากนี้หลังกำแพงห้องนอนยังไม่ควรเป็นห้องน้ำ ห้องครัว ห้องเก็บของ หรือเป็นระเบียงที่มีคนเดินผ่าน เพราะสิ่งเหล่านี้มีพลังงานด้านลบ ส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด และผู้อาศัยมักเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะถ้าหลังห้องนอนเป็นระเบียงทางเดิน จะทำให้เป็นคนที่หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิในการทำงาน
ห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย

 

ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอน ควรวางเตียงไว้ทิศไหน?


ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนแล้ว เชื่อว่าการวางเตียงในแต่ละทิศนั้นจะส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้อยู่อาศัย โดยแต่ละทิศจะให้คุณที่ต่างกันออกไป ดังนี้


ทิศเหนือ จะช่วยในเรื่องของความสามารถในการรับรู้ตามสัญชาตญาณ

ทิศใต้ จะช่วยให้เป็นคนมีชื่อเสียงที่ดี มีหน้ามีตา มีเกียรติในสังคม

ทิศตะวันออก จะช่วยทำให้นอนหลับสนิท มีความสงบในการพักผ่อน


ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะเสริมการทำงานที่ดี โดยเฉพาะการทำงานเกี่ยวกับการค้นคว้าวิจัย หรือการทดลองต่างๆ


ทิศตะวันออกเฉียงใต้
 จะช่วยทำให้เป็นคนที่มีความขยันพากเพียร มีความอดทนในการทำงานมากขึ้น

ทิศตะวันตก ส่งเสริมให้มีลูกดก เหมาะสำหรับคู่สามีภรรยาที่ต้องการมีลูก

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งเสริมการมีบริวาร มีเพื่อนฝูงและคนรู้จักมาก

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะช่วยในเรื่องของความรักทำให้ราบรื่นและสมหวัง

ฮวงจุ้ยห้องนอน ร่ำรวย สุขภาพ โชคลาภ

ฮวงจุ้ยห้องนอนกับเรื่องโชคลาภ เงินทอง และ สุขภาพ

นอกจากทิศทางของห้องนอนและเตียงนอนที่ได้กล่าวมาข้างต้น ยังมีการจัดตำแหน่งเตียงที่ช่วยเสริมเรื่องโชคลาภ เงินทอง และ สุขภาพ ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนอีกด้วย โดยสามารถแบ่งฮวงจุ้ยห้องนอนเป็นข้อควรทำ และ ข้อควรหลีกเลี่ยง

ข้อควรทำ (ฮวงจุ้ยห้องนอนที่ดี) เฮงๆ รวยๆ

• ควรจัดหัวเตียงนอนให้เยื้องจากประตู ในเชิงฮวงจุ้ยจะทำให้ได้รับแต่พลังงานดี โชคลาภ ทำงานราบรื่น อุปสรรคน้อย ในเชิงจิตวิทยาการจัดเตียงนอนเช่นนี้ จะทำให้รู้สึกปลอดภัยเพราะเห็นว่าใครเข้าออกจากห้องนอนบ้าง

• หัวเตียงควรติดกำแพง หรือไม่ควรปล่อยให้หัวเตียงมีพื้นที่ว่างมากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ฝันไม่ดีบ่อย ร่างกายอ่อนแอ นอกจากนี้ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนแล้ว กำแพงยังเป็นตัวเสริมพลังงานที่ดีอีกด้วย
• ความสูงของเตียงนอน ในปัจจุบันเตียงนอนส่วนใหญ่มักสูงจากพื้นประมาณ 2 ฟุตกว่า ซึ่งถือว่าเป็นความสูงในระดับพอดี ตกลงมาไม่เป็นอันตราย ส่วนเตียงที่ติดกับพื้น มีโอกาสรับฝุ่นมาก และป่วยเป็นโรคง่าย ถือว่าไม่ดีตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอน

• ชนิดฟูก ให้คำนึงถึงความสบายเป็นหลักมากกว่าราคา เพราะถ้าเลือกฟูกที่หลับสบายแล้ว จะทำให้นอนอย่างมีประสิทธิภาพ และมีพลังงานฮวงจุ้ยที่ดีเต็มเปี่ยม ส่งเสริมให้มีสุขภาพแข็งแรง 

ตำแหน่งการวางเตียงนอนไม่ดี

ข้อควรหลีกเลี่ยง (ฮวงจุ้ยห้องนอนไม่ดี) ทรัพย์อาจจางหาย 

 

 

• เตียงนอน ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนแล้วไม่ควรวางตรงกับประตูห้อง โดยเฉพาะการหันหัวเตียงหรือท้ายเตียงไปตรงกับประตู เนื่องจากประตูเปรียบเสมือนปากทางพลัง ทั้งพลังงานร้ายและพลังงานดีที่จะพุ่งเข้าชนขอบประตู ทำให้ป่วยบ่อย เหนื่อยง่าย หรือเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ่อยๆ

• คานบ้านไม่ควรตรงกับเตียงนอน เพราะตามหลักฮวงจุ้ยนั้นเชื่อว่าผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกเหมือนถูกกดทับ กดดัน ตลอดเวลาที่นอนหลับพักผ่อน

• ห้ามวางหัวเตียงตรงกับที่ประตูเปิด เพราะจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตประจำวัน มักมีอุปสรรคและป่วยง่าย

• ไม่ควรวางเตียงนอนไว้ที่โล่งๆ โดยเฉพาะเตียงที่มีพื้นที่โล่งทั้ง 4 ด้าน เพราะจะทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก

• ไม่ควรวางเตียงไว้ระหว่างหน้าต่างกับประตู เพราะตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนแล้วการวางแบบนี้จะทำให้เราถูกดูดพลังงานไปในขณะนอนหลับพักผ่อน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ สุขภาพอ่อนแอ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรแก้ไขด้วยการให้ติดม่านที่หน้าต่าง

การตกแต่งและสีห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอน

มาถึงเรื่องการตกแต่งและสีของห้องนอนกันบ้าง ว่าเราควรจัดห้องและทาสีอย่างไรให้มีสุขภาพที่ดี มีเงินทองไหลมาเทมา และมีความสุขตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนที่ดี
• ห้องนอนสีม่วงอ่อน ห้องนอนสีนี้เป็นแหล่งการรับจิตวิญญาณที่ดี เป็นสีแห่งความสำเร็จและความปรารถนาดี รวมทั้งมีหน้าที่การงานที่ดีตามมาด้วย

• ห้องสีครีม เป็นห้องที่ช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพและความมั่นคงทางอารมณ์ทำให้สุขภาพของคุณแข็งแรงเหมาะแก่สำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ที่จะทำให้แข็งแรงเร็ววันเร็วคืน


• ห้องนอนสีชมพู เป็นสีที่เรียบง่ายเหมาะแก่การเยียวยาความยากจนให้หมดไป จึงทำให้สีนี้เป็นสีมงคลตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งจะทำให้ร่ำรวย เงินทอง รวมถึงช่วยเรื่องการเรียนให้ดีมากขึ้น


• ห้องสีเขียว ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนแล้วสีเขียวเป็นสีแห่งการเจริญเติบโตเหมือนใบไม้ผลิในฤดูฝน เมื่อคุณนอนอยู่หรือว่าจะอาศัยภายในห้องนี้จะมีสุขภาพดีและมีความเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภและความมั่งคั่งในหน้าที่การงานและเงินทองไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง


• ห้องสีชมพูอมส้ม สีนี้เป็นสีที่ดึงดูดและมีเสน่ห์ทางเพศ จะเด่นเรื่องความรักความสัมพันธ์ เหมาะสำหรับคนโสดที่ต้องการหาคู่เป็นอย่างยิ่ง


• ห้องสีม่วง เป็นสีแห่งความสำเร็จตามหลักฮวงจุ้ย นอกจากนี้ยังส่งเสริมผู้อยู่อาศัยให้มีหน้าที่การงานดี สุขภาพแข็งแรง มีความรุ่งเรือง รวมถึงโชคลาภและความมั่งคั่งทางการเงิน

การเลือกสีห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยห้องนอนกับสีของปีนักษัตรทั้ง 12


นอกจากสีห้องจะมีความหมายตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอน รู้หรือไม่ว่าแต่ละปีนักษัตรนั้นจะมีสีที่เหมาะสมหรือถูกโฉลกไม่เหมือนกัน ซึ่งทางเราก็รวบรวมสีที่เหมาะของปีนักษัตรทั้ง 12 มาให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว ดังนี้

 

• ปีหนู สีที่ถูกโฉลกและการทาห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีขาว สีฟ้า สีเทา และสีดำ

• ปีวัว สีที่ถูกโฉลกสำหรับการตกแต่งห้องของคุณ ได้แก่ สีม่วง สีเหลือง สีส้ม และสีน้ำตาล

• ปีเสือ สีที่ถูกโฉลก แก่การทาห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีดำ สีเขียว สีเหลืองอมเขียว และสีฟ้า

• ปีกระต่าย สีที่ถูกโฉลกสำหรับการทาห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีเหลืองอมเขียว สีดำ สีฟ้า และสีเขียว

• ปีมังกร สีที่ถูกโฉลกกับการตกแต่งห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีส้ม สีม่วง สีเหลือง สีแดง

• ปีงู สีที่ถูกโฉลกในการทาห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีเหลืองอมเขียว สีม่วง สีแดง และสีส้ม

• ปีม้า สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีม่วง

• ปีแพะ เหมาะแก่สีโทนเข้ม ได้แก่ สีม่วง สีส้ม สีแดง และ สีน้ำตาล

• ปีลิง สีที่ถูกโฉลกสำหรับการทาห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีน้ำตาล สีเหลือง สีทอง สีเงิน และสีขาว

• ปีไก่ สีที่ถูกโฉลกในการแต่งห้องนอนของคุณได้แก่ สีทอง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีขาว

• ปีจอ สีที่ควรตกแต่งห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีส้ม สีม่วง สีเหลือง และ สีน้ำตาล

• ปีหมู สีที่เหมาะสมแก่การตกแต่งห้องนอนของคุณ ได้แก่ สีทอง สีเงิน สีฟ้า สีดำ และสีเทา

ของตกแต่งห้องเสริมมงคลและความร่ำรวยตามฮวงจุ้ยห้องนอน

ห้องนอนประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับ

แน่นอนว่าของตกแต่งห้องนอนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจะสวยงามแล้วตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนของพวกนี้ยังนำความสุข พลังงานที่ดี และเงินทองให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ซึ่งของตกแต่งที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนได้แก่ของ 3 สิ่งนี้


• โมบาย 
 เพิ่มพลังงานในห้อง ช่วยเรื่องโชคลาภ รวมถึงเรื่องการเงินซึ่งจะหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น

• หินมงคล ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามงคล หากนำมาไว้ในห้องนอนนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังเพิ่มพูนโชคลาภให้เงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย

• คริสตัล ให้นำลูกคริสตัลหรือแบบแท่งก็ได้มาตั้งไว้ในห้องนอน ช่วยเพิ่มพลังงานภายในห้อง นอกจากนี้หากใครทำธุรกิจจะช่วยเสริมให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นอีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.estopolis.com/

 

วิธีตั้งศาลพระภูมิให้ถูกหลักต้องทำอย่างไร

วิธีตั้งศาลพระภูมิให้ถูกหลักต้องทำอย่างไร

ปลูกบ้านใหม่ อยากตั้งศาลเพื่อความเป็นสิริมงคลมีขั้นตอนอย่างไร

เข้าสู่ปี 2563 มาไม่กี่วันหลายท่านใช้ฤกษ์งามยามดีถือโอกาสย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่ เริ่มต้นชีวิตด้วยอะไรใหม่ๆ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยตั้งแต่ต้นปี และก็มีอีกหลายท่านจัดแจงปัดกวาด เช็ดถูทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไม่ว่าจะเป็นทาสีบ้านใหม่ ปูกระเบื้องใหม่ ยาแนวใหม่ ซ่อมหลังคาแตกร้าว ทั้งหมดก็เพื่อต้อนรับปีใหม่เป็นการเอาเคล็ดให้ชีวิตมีแต่ความราบรื่นไม่มีสะดุด เฮงๆ ตลอดปี  

และในวันนี้พี่เข้ก็มีสาระดีๆมาฝากกันซึ่งก็ต้องบอกว่าเกี่ยวข้องกับความเชื่อนั่นก็คือ “ศาลพระภูมิ” ที่เรารู้จักกันดี คอนเทนต์นี้จึงเหมาะกับท่านที่กำลังคิดจะตั้งศาลพระภูมิ หรือซ่อมแซม หรือเปลี่ยนศาล ย้ายศาล เพื่อนำไปปฎิบัติใช้ให้ถูกต้อง นำความเป็นสิริมงคลมาสู่เจ้าของบ้านต้อนรับปีใหม่ 2563 นี้

ทำไมต้องตั้งศาลพระภูมิ

ศาลพระภูมิ ตามความเชื่อแต่โบราณ สร้างไว้สำหรับเป็นที่สถิตของเทพารักษ์เพื่อให้ช่วยคุ้มครองปกปักรักษาคนในบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข โดยเป็นการผสมผสานระหว่างศาสต์ด้านศาสนา พิธีกรรม และความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู 

บริเวณบ้านที่เหมาะสมกับการตั้งศาลพระภูมิ

ถือเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอย่างแรก ไม่ใช่แค่ดูสถานที่ตั้งแต่เพียงอย่างเดียว เรื่องของทิศทางว่าศาลควรหันหน้าไปทางทิศไหนจึงจะเหมาะ รวมถึงวันและฤกษ์ตั้ง, ความสูงของศาลพระภูมิและผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิทุกอย่างล้วนสำคัญทั้งหมด

ทิศมงคลสำหรับตั้งศาลพระภูมิ

ส่วนมากแล้วนิยมตั้งทางทิศ บูรพา (ทิศตะวันออก) หรือ ทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) หรือ ทิศอาคเณย์ หรือ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) ส่วนทิศที่ต้องห้ามได้แก่ ทิศตะวันตกและทิศใต้

สถานที่ตั้งมีข้อควรปฎิบัติอะไรบ้าง ?

1. ต้องเป็นบริเวณพื้นดิน และต้องไม่ใช่บริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน
2. ควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ และอย่าหันหน้าเข้าหาห้องน้ำ
3. ที่ตั้งของศาลต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้านสะท้อนลงมาบังหรือทับ
4. ไม่ควรตั้งศาลให้หันหน้าตรงกับประตูหน้าบ้าน
5. ความสูงของศาล ควรอยู่สูงเหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นไปเล็กน้อย

ต้องมีการเตรียมหลุมเสาก่อน

ก่อนตั้งเสาศาลพระภูมิ จะต้องมีการเตรียมหลุมเสียก่อน โดยภายในหลุมให้มีสิ่งของมงคลใส่อยู่ข้างใน ดังต่อไปนี้
1.เหรียญเงิน 9 เหรียญ
2.เหรียญทอง (เหรียญสลึงหรือ 50 สตางค์ก็ได้) 9 เหรียญ
3.ใบเงิน 9 ใบ
4.ใบทอง 9 ใบ
5.ใบนาค 9 ใบ
6.ใบรัก 9 ใบ
7.ใบมะยม 9 ใบ
8.ใบนางกวัก 9 ใบ
9.ใบนางคุ้ม 9 ใบ
10.ใบกาหลง 9 ใบ
11.ดอกบานไม่รู้โรย 9 ดอก
12.ดอกพุทธรักษา 9 ดอก
13.ไม้มงคล 9 ชนิด
14.แผ่น เงิน,ทอง,นาค 1 ชุด
15.พลอยนพเก้า 1 ชุด

ส่วนประกอบสำคัญของศาลพระภูมิมีอะไรบ้าง ?

อย่างที่กล่าวตั้งแต่ตอนต้นว่า ศาลพระภูมิ เป็นที่สถิตของเทพารักษ์ เทวดาทั้งหลาย ดังนั้นภายในศาลต้องมี รูปเทพารักษ์ที่ประดิษฐานไว้ในศาลพระภูมิ หรือที่เรียกว่า “จะเหว็ดศาลพระภูมิ” ทำจากไม้นำมาแกะสลักหรือเขียนเป็นรูปเทวดาถือพระขรรค์ นอกจากนี้ต้องมี ตุ๊กตาชาย/หญิง อย่างละ  1 คู่, ตุ๊กตาช้าง/ม้า อย่างละ 1 คู่ รวมถึงหุ่นละคร 2 โรง

วันและฤกษ์ตั้งศาล
วันอาทิตย์ เวลา 6.09 น. – 8.19 น.
วันจันทร์ เวลา 8.29 น. – 10.39 น.
วันอังคาร เวลา 6.39 น. – 8.09 น.
วันพุธ เวลา 8.39 น. – 10.19 น.
วันพฤหัสบดี เวลา 10.49 น. – 11.39 น.
วันศุกร์ เวลา 6.19 น. – 8.09 น.
วันเสาร์ เวลา 8.49 น. – 10.49 น.

เป็นที่น่าสังเกตว่าศาลพระภูมินิยมแต่เฉพาะภาคกลางเท่านั้น ไม่นิยมในภาคอื่น ๆ อย่างไรก็ตามสำหรับท่านที่เตรียมตั้งศาลพระภูมิไว้ที่บ้านเพื่อคุ้มครองรักษาคนในครอบครัว ถ้าได้ปฎิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญ ทั้งยังเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจให้กับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

และสำหรับท่านใดที่ปลูกบ้านในสไตล์โมเดิร์น ทันสมัย ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าศาลพระภูมิจะทำให้ดูเชยหรือไม่เข้ากับบ้าน เพราะยุคนี้เขาก็มีศาลพระภูมิดีไซน์ที่หลากหลาย ทันสมัย เก๋ ๆ จำหน่ายอยู่มากมาย ทำจากวัสดุไม้บ้าง ปูนบ้าง สามารถเลือกได้ตามใจชอบ

และที่สำคัญไม่ว่าคุณเลือกศาลพระภูมิไว้กราบไหว้เป็นแบบใดก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือการหมั่นดูแลรักษาความสะอาดทั้งตัวศาลและบริเวณโดยรอบอย่างสม่ำเสมอให้เหมือนกับบ้านของคุณต้องไม่ลืมว่าศาลตั้งอยู่กลางแจ้ง ถูกแดด ถูกฝน ดังนั้นเรื่องของวัสดุที่ใช้ อาทิ ยาแนว ก็ควรเป็นยาแนวชนิดพิเศษที่ไม่ก่อให้เกิดราดำหรือตะไคร่ หรือหากพื้นปูด้วยกระเบื้องผิวเรียบก็อาจต้องใช้น้ำยากันพื้นลื่นทาช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับตัวคุณ

และนอกจากนี้หมั่นบูชา กราบไหว้ ด้วยวัตถุปัจจัยตามโอกาสก็จะนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ครอบครัวของตัวคุณอย่างแน่นอน

 

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.jorakay.co.th/

ประตูเหล็กขึ้นสนิม ดูแลอย่างไร

ประตูเหล็กขึ้นสนิม ดูแลอย่างไร

ทำไงดี ! ประตูเหล็กขึ้นสนิม มีวิธีแก้ไขไหม

ปัจจุบันประตูรั้วบ้านมีให้เลือกหลากหลายวัสดุ ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องความแข็งแรงทนทาน ประตูรั้วมีความให้เลือกทั้งแบบประตูรั้วไม้ หรือ ประตูรั้วเหล็ก โดยแต่ละแบบมีการออกแบบสวยงาม ทันสมัย แถมยังสร้างอณาเขตให้พื้นที่ความเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังช่วยให้บ้านดูสวยงาม และยังเป็นด่านแรกที่ผู้คนผ่านไปมาพบเห็น แน่นอนว่าประตูรั่วบ้านต้องเผชิญแสงแดด ฝน ลม เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะเกิดความเสียหาย ชำรุด ยิ่งเป็นประตูรั้วเหล็กสิ่งที่พบบ่อยเลย คงหนีไม่พ้นสนิม ที่เกาะตามเหล็กทำให้ประตูรั้วไม่สวยงาม

หมดปัญหาประตูเหล็กขึ้นสนิม  ดูแลง่ายๆ

ปัญหาประตูเหล็กขึ้นสนิม สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของบ้านอย่างมาก เพราะนอกจากประตูรั้วจะเสียหายแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ให้บ้านดูไม่สวยงาม ประตูเหล็กขึ้นสนิมถึงแม้จะเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีดูแลรักษา วันนี้พี่เข้มาพร้อมกับ  ประตูเหล็กขึ้นสนิม ดูแลอย่างไร? ประตูเหล็กบางชนิดมีราคาค่อนข้างสูง จะเปลี่ยนใหม่ก็คงเสียงบประมาณเพิ่ม ดูแล แก้ไขได้ง่ายๆ ก็ได้ประตูเหล็กเหมือนใหม่อีกครั้ง

ก่อนลงมือทำความสะอาด รักษาประตูเหล็กสนิมขึ้น จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเหล็กกับสนิมเป็นของคู่กัน ดังนั้นต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดให้บ่อย เพื่อไม่ให้สนิมกลับมาใหม่ ที่สำคัญยังไม่เปลืองงบประมาณ

 

วิธีซ่อมประตูเหล็กสนิมกินเล็กน้อย  

– เมื่อเกิดสนิมเล็กน้อยไม่มาก จนถึงขั้นทำให้เกิดรูโหว่ ให้ทำการขัดสีสนิมออกให้หมด โดยการขูดออก ใช้กระดาษทราย หรือ แปรงลวดทองเหลือขัดออก ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
– เมื่อทาสีออกหมดแล้วให้ทำการทาสีรองพื้นกันสนิมให้ทั่ว แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง ให้ทาด้วยกัน 2 รอบ
– หลังจากที่ทารองพื้นกันสนิมแล้ว ให้ทาสีน้ำมันทับลงไป ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดทั้งหมด ควรทำความสะอาดฝุ่นผงเสียก่อน

วิธีซ่อมประตูเหล็กสนิมกินจนเกิดรูโหว่

– หากต้องการกยุดสนิมในระยะยาว ให้เลือกใช้น้ำยาเคมีประเภท Rust Converter เพื่อเปลี่ยนสนิมเหล็กให้กลายเป็นสารแมกเนไทต์ ซึ่งสารดังกล่าวมีความแข็งแรง ช่วยสร้างชั้นฟิล์มขึ้นมาปกป้องผิวเหล็ก และลอกสีเก่าออก
– หลังจากนั้นใช้แปลงลวดทองเหลือง หรือ กระดาษทราย ขัดสีออกให้หมด สามารล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าได้ หลังจากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง
– หลังจากทำความสะอาดให้ออกอย่างหมดจดแล้ว ให้ทำการตัดเหล็กที่มีขนาดใหญ่กว่ารู แล้วใช้แผ่นเหล็กช่วยปิดรูโหว่ของประตูรั้ว
– เมื่อปิดรูสนิทแล้ว ให้ทำการทาสีน้ำมันทับลงไปที่แผ่นเหล็ก ให้เป็นสีเดียวกัน

การดูแลรักษาประตูเหล็กไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำตามวิธีข้างต้นได้แบบง่ายๆ ในกรณีที่มีคราบสีติดอยู่แนะนำเลือกใช้ น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี ความหนืดของน้ำยา สามารถขจัดคราบสีบนพื้นผิวใน เพียงทำความสะอาดสิ่งสกปรกให้หมดก่อนที่จะลงน้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี  ทิ้งไว้ 3-4 นาที โดยใช้แปรงทาสี ไม่ต้องผสมน้ำ ทาแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นอันเรียบร้อย ใช้งานง่าย ควรจัดเก็บให้พ้นแสงแดด และอุณหภูมิไม่เกิน 40 °C เพียงเท่านี้ประตูเหล็กบ้านก็จะกลับมาสวยอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.jorakay.co.th/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า