Warning: "continue" targeting switch is equivalent to "break". Did you mean to use "continue 2"? in /home/thanasarnc/domains/thanasarn.co.th/public_html/wp-content/themes/divi/includes/builder/functions.php on line 4783
ราคาเหล็กวันนี้ Archives - Page 17 of 18 - ตัวแทนจำหน่ายเหล็กทุกชนิด เหล็กเส้น เหล็กไวแฟรงค์ เหล็กเฮชบีม เหล็กไอบีม ราคายุติธรรม google.com, pub-1539147387772263, DIRECT, f08c47fec0942fa0
5 ขั้นตอนการสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านมือใหม่ต้องเรียนรู้

5 ขั้นตอนการสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านมือใหม่ต้องเรียนรู้

5 ขั้นตอนการสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านมือใหม่ต้องเรียนรู้

.            บ้านสวยๆสักหลังอาจเป็ยความฝันของใครหลายๆคนในยุคปัจจุบันที่ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจส่งผลต่อการกระตุ้นให้คนในสังคมสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้ง่ายขึ้น อาจเห็นได้จากการจัดโครงการของภาครัฐและธนาคารที่ช่วยกระตุ้นให้คนอยากมีบ้านด้ทำตามความฝันของตนเองด้วยการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อบ้านหลังแรกและการสนับสนุนด้านต่างๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่กำลังจะสร้างหรือซื้อบ้านสักหลัง ปัญหาส่วนใหญ่ที่ตามมาคือการควบคุมงบประมาณในการก่อสร้างที่อาจจจะบานปลายในอนาคตจนกว่าบ้านจะสร้างเสร็จ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ด้วยการขาดความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนและความสำคัญของการสร้างบ้านสักหลังที่จะต้องควบคุมวางแผนอย่างดี วันนี้เราจึงมี6 ขั้นตอนการสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านมือใหม่ต้องเรียนรู้ มาฝากกันเพื่อให้ทุกท่านที่อาจจะกำลังสร้างบ้านสักหังของตนเองได้เก็บเอาไปใช้

 

161213_nhc_gift_024_6-%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99

.         1. งานฐานรากและโครงสร้าง เป็นงานที่มีความสำคัญที่สุดหากมีความผิดพลาดในงานส่วนนี้หรือต้องการเปลี่ยนแปลงภายหลังจะมีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสูง ดังนั้นท่านเจ้าของบ้านควรตัดสินใจให้แน่นอนเกี่ยวกับขนาดของห้องต่างๆ และตำแหน่งที่ตั้งก่อนลงมือตอกเสาเข็ม เพื่อป้องกันปัญหาการเปลี่ยนแปลงหลังจากงานโครงสร้างเริ่มต้นไปแล้วเนื่องจากในการออกแบบโครงสร้างจะมีความสัมพันธ์กันทั้งอาคารการเปลี่ยนแปลงเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้

.        2. งานผนังและหลังคา งานส่วนนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความสวยงามของตัวบ้านและยังมีผลโดยตรงต่อการใช้งานบ้านในด้านการป้องกันความร้อน แสงแดด และน้ำฝน การตัดสินใจเลือกวัสดุที่จะใช้และขนาดระยะต่างๆ จะต้องเหมาะสมกับการใช้สอยและไม่ก่อให้เกิดปัญหาภายหลัง

3. งานช่องเปิดตประตูและหน้าต่าง ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้บ้านแล้วยังมีผลต่อระยะเวลาก่อสร้าง เนื่องจากโดยปกติงานส่วนนี้จะต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าตั้งแต่การจัดเตรียมช่องเปิดของผนัง และการสั่งผลิตจากผู้จัดจำหน่าย อีกทั้งจะกระทบต่อการจัดวางตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์และงานระบบต่างๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ระหว่างก่อสร้างจะกระทบถึงค่าใช้จ่ายในงานก่อสร้างมากที่สุด

.         4. งานระบบไฟฟ้า ประปา ศูนย์อำนวยความสะดวกของบ้านคืองานระบบเหล่านี้ หากถูกออกแบบมาไม่เหมาะสม หรือติดตั้งผิดตำแหน่งจะทำให้การใช้ประโยชน์ในบ้านเกิดความไม่สะดวกหรือเกิดอันตราย

.        5. งานตกแต่งสถาปัตยกรรม สุดท้ายบ้านจะสวยงามเป็นที่ภาคภูมิใจของเจ้าของบ้านเพียงใดขึ้นอยู่กับการเลือกประเภทวัสดุตกแต่งผิว ทั้งผิวพื้น ผนัง รวมถึงสีที่เลือกใช้ล้วนบ่งบอก รสนิยม อุปนิสัย บางครั้งรวมถึง ความปลอดภัยในการอยู่อาศัยอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.nhconcept.com

งานก่อสร้าง ใช้เหล็กอะไร

งานก่อสร้าง ใช้เหล็กอะไร

เหล็กที่ใช้ในงานก่อสร้างมีหลายประเภทได้แก่

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เหล็กเส้นกลม

1. เหล็กเส้นกลม

          จะมีเส้นผ่านศุนย์กลางตั้งแต่ 6 ถึง 28 มิลลิเมตร และขนาดความยาว 10 หรือ 12 เมตรเหมาะสำหรับงานขนาดเล็ก และขนาดกลาง มีคาร์บอน 0.28% ฟอสฟอรัส 0.058% และกำมะถัน 0.058%

 

เหล็กก่อสร้าง, เหล็กเส้น, เหล็กข้ออ้อย, เหล็กรูปพรรณ

2. เหล็กเส้นข้ออ้อย

         ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10 ถึง 33 มิลลิเมตร มีความยาวโดยทั่วไป 10 และ 12เมตรเหล็กเส้นข้ออ้อย เป็นเหล็ก ที่มีแรงยึดเกาะที่ผิวสูง เหมาะสำหรับงานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ต้องการความแข็งแรงสูง โดยไม่จำเป็นต้องออกแบบให้โครงสร้างใหญ่โต มีคาร์บอน 0.28% ฟอสฟอรัส 0.058% และกำมะถัน 0.058%

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เสาเข็ม

3. เหล็กเสริมคอนกรีตอัดแรง

             เป็นเหล็กเสริมคอนกรีตในการผลิตเสาเข็ม เสาไฟฟ้า คานพื้นสำเร็จรูป ท่อระบายน้ำ คอนกรีตอัดแรง ฯลฯ มีลักษณะเป็นเหล็กแบบกลมมีรอยย้ำ ต้องมีรอยย้ำ 2 แถวอยู่ตรงข้ามกันและรอยย้ำของแถวหนึ่งต้องเหลื่อมกับอีกแถวหนึ่งถ้าเป็นเหล็กแบบ กลม เกลี้ยง ต้องมีผิวทั้งหมดเรียบเกลี้ยง ไม่มีรอยปริหรือแตกร้าว หรือเป็นปีกต้องเป็นเส้นเดียวกัน

          ไม่มีการต่อหรือเชื่อมหากมีขึ้นในระหว่าง กระบวนการ ผลิตต้องตัดทิ้งให้หมด ผิวเหล็กต้องปราศจากคราบน้ำมันหรือสารอื่นใดที่จะมีผลทำให้แรงยึดระหว่างคอนกรีตกับเหล็กเสียไปเหล็กต้อง

          ไม่เป็นสนิมขุม เว้นแต่สนิมผิวซึ่งยอมให้มีได้การตัดเหล็กให้ใช้หินเจียระไนหรือกรรไกรตัดเหล็ก ห้ามใช้ก๊าซดัดเพราะว่าความร้อนจากก๊าซตัดจะทำให้ คุณสมบัติของเหล็กต่ำลง

         เหล็กเสริมคอนกรีตอัดแรงมีคาร์บอน 0.60 ถึง 0.90% ซิลิคอน 0.10 ถึง 0.35% แมงกานีส 0.40 ถึง 0.90%ฟอสฟอรัส ไม่เกิน 0.50% กำมะถันไม่เกิน 0.05% เหล็กมี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดเส้นเดียว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4,5,7,9 มิลลิเมตรและชนิดตีเกลียวมีเส้นผ่าน ศูนย์กลาง 3/8 นิ้ว และ 0.05 นิ้ว

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ก่อสร้างเหล็กลวดผูก

4. เหล็กลวดผูกเหล็ก

      มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.5 ถึง 8 มิลลิเมตร เหล็กลวดนี้ใช้สำหรับทำตะปู ลวดอาบสังกะสี ตาข่าย 

ปัญหาฝุ่น งานก่อสร้าง

ปัญหาฝุ่น งานก่อสร้าง

บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง

บริเวณโดยรอบของการก่อสร้าง

           จุดที่ติดกับพื้นที่สาธารณะต้องกั้นพื้นที่โดยทำรั้วทึบสูงไม่น้อยกว่า 2 เมตร มีผ้าใบหรือสแลนขึงปิดคลุมการก่อสร้างอย่างมิดชิดเพื่อป้องกันวัสดุตกหล่นลงในพื้นที่สาธารณะโดยรอบ  หมั่นดูแลทำความสะอาดพื้นที่การก่อสร้างและพื้นที่สาธารณะโดยรอบอย่างสม่ำเสมอ หากกรณีที่มีฝุ่นเยอะให้ฉีดพรมด้วยน้ำเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายตัวของฝุ่นละออง   ทางเข้า-ออกพื้นที่ก่อสร้าง

ทางเข้า-ออกมีเพียงช่องทางเดียว และอยู่ในพื้นที่ที่ไม่กีดขวางช่องทางน้ำไหลและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบระบายน้ำหรือช่องทางน้ำสาธารณะ     

         ใช้ยางแอลฟัลต์ (ยางมะตอย) หรือการเทคอนกรีตบริเวณพื้นที่นั้น  มีอุปกรณ์และสถานที่สำหรับการล้างล้อและตัวถังรถก่อนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง

บริเวณวัสดุก่อสร้าง

         กองวัสดุที่มีฝุ่นควรปิดหรือคลุมให้มิดชิดทุกด้านโดยรอบ ฉีดพรมน้ำให้ผิวเปียกอยู่เสมอ  การลำเลียงวัสดุจะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยในเฉพาะช่วงกลางคืน   ไม่กองวัสดุที่เหลือใช้ไว้ที่หน้างาน ต้องขนย้ายออกจากพื้นที่อย่างน้อยทุก ๆ 2 วัน และการเคลื่อนย้ายวัสดุที่มีฝุ่นต้องฉีดพรมน้ำก่อนเคลื่อนย้าย เพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย
          หากยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ต้องมีพื้นที่เพียงพอต่อการจัดเก็บ และต้องทำความสะอาดอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นละอองสะสมในพื้นที่

ดูแลหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ

        การดูแลหลังก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยนั้นทุกอย่างต้องดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติในเรื่องนั้น โดยไม่ทำให้ส่วนรวมเกิดความเสียหายและไม่ทำลายทัศนวิสัยในการมองเห็น ที่สำคัญการก่อสร้างต้องไม่ก่อให้เกิดหรือต้องมีการป้องกันไม่ให้เกิด กลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละอองเขม่า เถ้า หรือสิ่งอื่นใดที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบพื้นที่

         จัดเก็บเศษวัสดุที่เหลือและทำความสะอาดสถานที่ก่อสร้างและบริเวณพื้นที่โดยรอบให้เร็วที่สุด ทั้งการล้างท่อระบายน้ำ การทำความสะอาดทางระบายน้ำสาธารณะไม่ให้มีเศษวัสดุหลงเหลือหรือตกค้าง
จัดการซ่อมแซมพื้นที่โดยรอบของการก่อสร้าง เช่น ซ่อมแซมพื้นผิวถนน ซ่อมแซมทางเดินสาธารณะและทำการเชื่อมต่อสิ่งสาธารณูปโภค ทั้งทางเข้า-ออก การเชื่อมท่อระบายน้ำ เป็นต้น

        การดูแลทั้งระหว่างและหลังก่อสร้างเป็นการป้องกันและจัดการของโครงการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ต้องกระทำในทุกพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง เพื่อช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองในพื้นที่บริเวณนั้น และอย่าลืมป้องกันตัวเองโดยการหลีกเลี่ยงการอยู่พื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ หากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ จากฝุ่นด้วยค่ะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์:https://www.hba-th.org/

ตะแกรงเหล็กไวร์เมชคืออะไร

ตะแกรงเหล็กไวร์เมชคืออะไร

ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh)

ตะแกรงเหล็กไวร์เมชกล้าเชื่อมติดเสริมคอนกรีต ทอติดกันเป็นผืน มีขนาดเส้นลวดขนาดต่างๆตั้งแต่ 3 มม.- 6 มม. ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็น (Cold Drawn Steel Wire) อาร์คเชื่อมติดกันด้วยไฟฟ้าทำให้จุดตัดทุกจุดหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ระยะห่างของเส้นลวดหรือที่นิยมเรียกว่า @มีหลายขนาด เช่น 15*15 นิ้ว / 20*20 นิ้ว / 25*25 นิ้ว จะใช้แทนการผูกเหล็กเส้นธรรมดาทั่วไปเป็นอย่างดี ทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน สามารถตัดเป็นแผงและเป็นม้วนได้ตามความต้องการโดยไม่เสียเศษ เงิน และแรงงานได้มากกว่า 80% และมีความสม่ำเสมอของตะแกรงที่แน่นอน ทำให้บริษัทหรือช่างก่อสร้างส่วนใหญ่เลือกใช้ จึงได้รับความนิยมใช้กันมาขึ้นเรื่อยๆ

ประโยชน์ของการเลือกใช้ไวร์เมช

ประหยัด 

เพราะตะแกรงเหล็กสามารถผลิตได้ตามขนาดที่ต้องการ จึงทำให้ไม่เสียเศษเหล็ก และเป็นตะแกรงเหล็กที่มีกำลังคลากสูงกว่าเหล็กเส้นทั่วไปสองเท่าจึงทำให้ ประหยัดวัสดุ

ลดขั้นตอนเวลา

ภาระและความสูญเสีย เพราะเป็นตะแกรงเหล็กที่ลดขั้นตอนในการทำงานได้ถึง 50% และใช้งานได้รวดเร็ว เนื่องจากการขนส่งเคลื่อนย้ายสะดวกและรวดเร็ว การตัดและดัดทำให้ลดเวลาในการผูกเหล็กลงได้ถึง 70-90% นำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาในการผูกเหล็ก

แข็งแรงสม่ำเสมอแน่นอน

เพราะเป็นตะแกรงเหล็กที่ผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ ทุกระยะจุดเชื่อมไม่คลาดเคลื่อนได้มาตรฐาน สม่ำเสมอตลอดผืนและมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่บิดงอ ทำให้งานเสริมเหล็กออกมาดี ซึ่งเป็นผลให้โครงสร้างมีความแข็งแรงสม่ำเสมอตลอดทั้งผืน

94

หน้าที่ของเหล็กไวร์เมช

เหล็กไวร์เมช  ที่ใช้แทนการผูกเหล็กสำหรับทำถนนคอนกรีตเหล็ก Wire mesh มีหน้าที่เอาไว้รับแรงกระแทก และแรงกดทับเพราะ ช่วยให้การทำงานไวขึ้น และใช้เป็นทางยาวๆที่ใช้การเอาเหล็กมาผูกและเป็นเหล็กขนาดเล็กอาจจะไม่เหมาะเท่าที่ควรและประสิทธิภาพไม่ดีเท่าเหล็กไวร์เมช หรือตะแกรงไวร์เมช

ลักษณะการใช้งานตะแกรงไวร์เมช

ตะแกรงไวร์เมช เป็นตัวรับและกระจายน้ำหนักเหล็กตะแกรงในงานถนน มีไว้ป้องกันการแตกร้าวเป็นหลักหรือใช้ในการก่อสร้างถนน โดยใช้เหล็ก ส่วนใหญ่เอาไว้รับแรงดึง จากการขยายตัวของพื้นคอนกรีตความแข็งแรงของถนน

คือชั้นคันทางโดยมีคอนกรีตทำหน้าที่กระจายแรง ขณะเดียวกัน ถ้าคันทางรับน้ำหนักไม่ได้แม้คอนกรีตจะกระจายแรงได้ดีเพียงใด มันก็ รับน้ำหนักไม่ไหว ดังนั้น ถ้า คอนกรีตกระจายแรงได้ดี

แต่คันทางรับน้ำหนักไม่ได้ คอนกรีตก็จะแตก ตะแกรงเหล็กไวร์เมช ทั่วไปจะรับแรงดึงได้ มากกว่า เหล็กเส้นกลม ประมาณ 2 เท่า

ไวร์เมช มีลักษณะเด่นในการรับน้ำหนัก จึงเป็นที่นิยมในการปูพื้นเพื่อรองรับคอนกรีตที่เทเป็นพื้นตึกหรืออาคาร และใช้ในการก่อสร้างอาคาร

ปูกำแพงดิน ,ผนังรับแรง ,กำแพงคอนกรีต ที่ต้องการโครงสร้างที่ผสานเชื่อมต่อกันอย่างมั่นคงแข็งแรงมากๆ

-ประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ ได้ตามความต้องการ เช่นโกดังเก็บของ ลานจอดรถ พื้นโรงจอดรถ เป็นต้น

 

wiremesh-b2

ประเภทของตะแกรงไวร์เมช

ตะแกรงไวร์เมชหลักๆนั้น มีการใช้งานอยู่ 2 ประเภท คือ

  1. ตะแกรงเหล็กไวร์เมช   เพื่อใช้สำหรับในงานเทพื้นคอนกรีต เพื่อรับน้ำหนักหรือรับแรง เหล็กไวร์เมชชนิดนี้ มรการใช้งานทั้ง เหล็กข้ออ้อยและเหล็กเส้นกลม ลักษณะของการใช้งานนี้คือ ใช้รองก่อนทำการเทพื้นคอนกรีต พร้อมกับเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนัก และเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นของคอนกรีตอีกด้วย
  2. กัลป์วาไนซ์ ไวร์เมช ตะแกรงไวร์เมช ชนิดนนี้ทำมาเพื่อปูบนเพดาน เพื่อวางแผ่นฉนวนกันความร้อน ต่างจากตะแกรงไวร์ชนิดแรก เพราะไวร์เมชชนิดนี้ จะชุบกัลป์วาไนซ์เพื่อป้องกันการเกิดสนิม อีกทั้งยังทำให้มีอายุการใช้งานยาวได้นานยิ่งขึ้น ตะแกรงเหล็กไวร์เมช ที่เอาไว้ปูบนพื้นเพดานนั้น นิยมเรียกกันว่า กัลป์วาไนซ์ไวร์เมช

การเลือกใช้งานไวร์เมช

ในการเลือกใช้งานวายเมทนั้น ท่านต้องทราบขนาดของพื้นที่ของหน้างานก่อน แล้วจึงจะสั่งตะแกงไวร์เมช ตามขนาดของพื้นที่ของหน้างาน และประเภทงานเช่น ถ้าพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักหรือรับแรงมากๆ ก็ควรเลือกใช้งานตะแกรงไวร์เมชที่มีขนาดของลวดที่ใหญ่ และระยะห่างที่ถี่มากขึ้น เพราะถ้าขนาดลวดที่ใหญ่ และระยะห่างที่ถี่ๆ ก็จะทำให้สามารถทนทานและรับน้ำหนักมากยิ่งขึ้น

ในสมัยก่อนการเทคอนกรีตที่ต้องการรับแรงให้ได้มากขึ้นนั้นต้องนิยมใช้เหล็กเส้นมาวางและผูกต่อกันเป็นตะแกรง แต่เนื่องด้วยวิธีการและการใช้งานที่แสงยุ่งยาก สิ้นเปลืองค่าแรงงาน และเสียเวลาจึงมีการใช้ตะแกรงไวร์เมชแทน เพราะง่ายกว่าวิธีเก่า และยังประหยัดเวลาในการทำงาน

 

ขอบคุณข้อมูลจากeducationbuilding.wordpress.com

เหล็กเส้นกลม คืออะไร, ชนิดของเหล็กเส้นกลม

เหล็กเส้นกลม คืออะไร, ชนิดของเหล็กเส้นกลม

ก่อนที่จะรู้ว่าเหล็กกลมคืออะไร เรามาทำความรู้จักกับเหล็กเส้นกันก่อน เหล็กเส้น เหล็กเสริมหรือเป็นที่นิยมเรียกกันว่าเหล็กเส้นก่อสร้าง เป็นอุปกรณ์ที่เป็นหัวใจหลักของงานก่อสร้าง สำคัญมากในการก่อสร้าง เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพิ่มความสามารถในการรับแรงกับโครงสร้าง เช่น งานคอนกรีตเสริมเหล็กหรืองานก่ออิฐทั่วไป

 

เหล็กเส้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

ซึ่งแต่ละประเภทของเหล็กเส้นจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

  1. เหล็กเส้นกลม (Round Bars RB)
  2. เหล็กเส้นข้ออ้อย

 

เหล็กเส้นกลม (Round Bars RB) หรือเรียกสั้นๆว่า RB

มาตรฐานเหล็กเส้นกลมของวีซีเอสเอเชียผ่าน ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน มอก.20-2543 หรือ TIS 20-2000 ทั้งหมด เส้นผ่านศูนย์กลางของเหล็กเส้นอยู่ที่ 6มม. – 25 มม. และมีความยาวมาตรฐานคือ 10 เมตรและ 12 เมตร เหล็กขนาด 6มม. และ 9มม. มักถูกใช้เป็นเหล็กปลอกในคาน หรือในเสา ส่วนเหล็กขนาด 12มม. ขึ้นไป มักจะถูกใช้ในงาน เหล็กเสริมแกนในงาน  หรือสามารถสั่งดัดพิเศษตามแบบที่ต้องการได้

dsc01684

ชนิดของเหล็กเส้นกลม

  1. เหล็กเส้นกลม แบบพับ
  • RB6 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 6 มม. ความยาว 10 เมตร พับ ภาคตัดขวาง 28.3 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 0.222 กิโลกรัมต่อเมตร

  • RB9 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 9 มม. ความยาว 10 เมตร พับ ภาคตัดขวาง 63.6 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 0.499 กิโลกรัมต่อเมตร

  • RB12 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 12 มม. ความยาว 10 เมตร พับ ภาคตัดขวาง 113.1 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 0.888 กิโลกรัมต่อเมตร

  • RB15 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 15 มม. ความยาว 10 เมตร พับภาคตัดขวาง 176.7 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 1.387 กิโลกรัมต่อเมตร

  • RB19 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 19 มม. ความยาว 10 เมตร พับภาคตัดขวาง 283.5 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 2.226 กิโลกรัมต่อเมตร

  • RB25 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 25 มม. ความยาว 10 เมตร พับภาคตัดขวาง 490.9 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 3.853 กิโลกรัมต่อเมตร

 

  1.  เหล็กเส้นกลมแบบตรง
  • RB6-Straight เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 6 มม. ความยาว 10 เมตร ตรงภาคตัดขวาง 28.3 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 0.222 กิโลกรัมต่อเมตร

  • RB9-Straight เหล็กเส้นกลม SR-2

4 ขนาด 9 มม. ความยาว 10 เมตร ตรง ภาคตัดขวาง 63.6 ตารางมิลลิเมตร น้ำหนัก 0.499 กิโลกรัมต่อเมตร

 

  1. เหล็กเส้นกลมแบบม้วน Bar-in-Coil
  • Coil6 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 6 มม. แบบม้วน 2 ตัน ความยาวม้วนละประมาณ 9,000  เมตร

  • Coil9 เหล็กเส้นกลม SR-24

ขนาด 9 มม. แบบม้วน 2 ตัน ความยาวม้วนละประมาณ 4,000  เมตร

 

  1. เหล็กเส้นกลมชนิดที่ตัดและดัดสำเร็จแล้ว (เหล็กปลอก Stirrup)

สั่งผลิตได้ตามขนาดความยาวที่ต้องการ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก educationbuilding.wordpress.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า