google.com, pub-1539147387772263, DIRECT, f08c47fec0942fa0
5 เทคนิคเลือกเมทัลชีทปูหลังคายังไง ให้เหมาะกับบ้านคุณ

5 เทคนิคเลือกเมทัลชีทปูหลังคายังไง ให้เหมาะกับบ้านคุณ

สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะสร้างบ้านหรือคนที่อยากปรับปรุงบ้านที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น คำแนะนำเริ่มต้นก็คงไม่พ้นที่ “หลังคา” ที่เป็นเหมือนมงกุฏของบ้าน เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูใหม่และสวยแบบมีสไตล์แล้ว หลังคาที่ดีจะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนให้คนอยู่ในบ้านรู้สึกเย็นสบายขึ้น ทำให้ประหยัดเรื่องการใช้เครื่องปรับอากาศ และยังช่วยกันลมฝน ป้องกันความหนาว ที่สำคัญหลังคาคือส่วนที่อยู่สูงสุดของตัวบ้าน ถ้าไม่ทำอย่างพิถีพิถันและใส่ใจ หากเกิดปัญหาชำรุดหรือรั่วซึมจะแก้ไขได้ยาก อีกทั้งยังจะส่งผลลุกลามต่อเนื่องถึงส่วนอื่นในบ้าน

เลือกหลังคาบ้าน เลือกอย่างไร เลือกแบบไหนดี
หลังคามีหลากรูปแบบและหลายประเภทให้เลือกใช้ นอกเหนือจากจะเลือกให้ตรงตามความชอบ เหมาะกับดีไซน์ของบ้าน แนะนำให้เลือกที่มีความทนทานเพื่อจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับการรื้อหลังคาออกแก้ไขใหม่ เพราะบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องสนุก!

หนึ่งในตัวเลือกของหลังคาที่น่าสนใจคือ “เมทัลชีท” เนื่องจากมีความทนทาน ราคาไม่สูงมาก ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา มีรูปแบบ และสีสันให้เลือกหลากหลาย หากแต่เวลาเลือกซื้อ เมทัลชีท ก็จะต้องเลือกซื้อสินค้าที่มีมาตรฐาน มีการรับประกัน และมาตรฐานมอก. เพื่อคุณจะได้มั่นใจอย่างเต็มร้อย ว่าหลังคาจะอยู่ปกป้องครอบครัวคุณได้ยาวนาน อย่าง BlueScope Zacs® ที่ถือเป็นเจ้าเดียวของไทยที่ได้รับ มอก. ถึง 2 ใบ (มอก. 2228-2559 และ มอก. 2753-2559) พร้อมมีการรับประกันสินค้าไม่ผุกร่อนถึง 12 ปี

 

และนี่คือ 5 เทคนิคที่คนคิดจะใช้หลังคาเมทัลชีทควรรู้ไว้ กับเคล็ดลับการเลือกหลังคาให้เหมาะกับบ้าน

  1. เริ่มต้นจากการเลือกรูปแบบลอนให้เหมาะกับความลาดชัน (Slope) ของหลังคาบ้าน เรื่องนี้มีความสำคัญมาก ผู้ผลิตแต่ละที่จะมีข้อกำหนด ความลาดชัน (Slope) ของแต่ละลอนว่าควรใช้กับ ความลาดชัน (Slope) เท่าไหร่ ถ้าเลือกผิดก็อาจจะรั่วได้เพราะ ระบายน้ำไม่ทัน
  2. จากนั้นเลือกความหนา และลักษณะของลอนให้เข้ากับความห่างของระยะแป โดยถ้าระยะแปมีความห่างมาก ควรเลือกใช้ความหนาที่มากขึ้น
  3. เลือกเกรดของเหล็ก ซึ่งโดยปกติจะมีสองแบบ เกรดนิ่ม และ เกรดแข็ง ซึ่งก็เหมาะกับลักษณะงานที่แตกต่างกันคือ เหล็กเกรดนิ่มจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า จึงเหมาะกับงานที่ต้องการขึ้นรูปลอนให้มีลักษณะโค้งมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการแตกหัก ขณะที่เหล็กเกรดแข็ง จะมีความแข็งแรงสูงจึงเหมาะสำหรับงานรูปลอนทั่วไป
  4. เลือกปริมาณมวลสารเคลือบ ซึ่งตรวจสอบได้จากตัวเลขที่ระบุหลังค่า AZ เพราะปริมาณมวลสารเคลือบมีความสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลโดยตรงกับอายุการใช้งานของหลังคาเหล็ก ยิ่งมีปริมาณสารเคลือบมาก อายุการใช้งานก็ยิ่งนาน อย่างหลังคาเมทัลชีท BlueScope Zacs ที่มีมวลสารเคลือบสูงสุดถึง AZ150 พร้อมการรับประกันไม่ผุกร่อนยาวนานถึง 12 ปี
  5. ดูที่มาตรฐาน มอก. ว่ามีเป็น เมทัลชีทที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน อย่างหลังคาเมทัลชีท BlueScope Zacs หลังคาที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล สามารถตรวจสอบได้

สรุป 5 ข้อดีการใช้วัสดุมุงหลังคาแบบ “เมทัลชีท”

  1. น้ำหนักเบา จึงสามารถประหยัดในเรื่องของโครงสร้างของหลังคาได้ หมายรวมถึงการประหยัดค่าก่อสร้างโดยรวมด้วย
  2. สามารถทำการติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว
  3. สามารถรีดแผ่นยาวต่อเนื่องได้ทำให้เกิดการรั่วซึมที่น้อยกว่าหลังคากระเบื้อง จึงสามารถออกแบบหลังคาที่มีความลาดเอียงต่ำได้
  4. มีสีสัน และรูปแบบของรูปลอนให้เลือกได้หลากหลาย ทำให้สามารถใช้ได้กับบ้านในทุกรูปแบบ และตรงใจเจ้าของบ้านได้มากที่สุด
  5. สามารถติดแผ่นฉนวนกันความร้อนเพิ่มได้ ทำให้หลังคาบ้านไม่เก็บความร้อน ส่งผลให้บ้านเย็นขึ้น

หลังคาที่มั่นคง นอกจากจะทำให้คนอยู่อาศัยอุ่นใจ ยังเป็นอีกหนึ่งปราการด่านสำคัญในการเป็นตัวกำหนดความแข็งแรง และความทนทานของบ้าน ดังนั้นเลือกให้ดี ลงทุนให้คุ้มก็จะทำให้บ้านอยู่กับคุณด้วยความสวยงามไปอีกนานมากขึ้น

 

ขอบคุณข้อมูลhttps://www.sanook.com/home/19889/

ตกแต่งบ้าน ทาสีบ้านโทนเย็น คลายร้อนให้แก่บ้าน

ตกแต่งบ้าน ทาสีบ้านโทนเย็น คลายร้อนให้แก่บ้าน

บ้านถือว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเพื่อการใช้เวลาอยู่ร่วมกันภายในครอบครัว และเป็นสถานที่คลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แน่นอนว่าการตกแต่งบ้านจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บ้านน่าอยู่ อีกทั้งเวลาที่เรามองไปรอบๆ แล้วจะเกิดความรู้สึกสบายตาสบายใจอย่างการ “ทาสีบ้านโทนเย็น” นอกจากจะสวยงามดูมีรสนิยมแล้ว ยังสามารถทำให้อุณหภูมิภายในห้องลดลงอีกด้วย วันนี้เรามีไอเดียการตกแต่งบ้านด้วยการ ทาสีบ้านโทนเย็น มาฝาก รับรองว่าคุณผู้อ่านสามารถนำไปเป็น reference ในการทาสีบ้านหรือตกแต่งบ้านได้แน่นอน

สีโทนเย็น #สีเขียวเหลือง

เขียวเหลือง8

เพิ่มสีสันคัลเลอร์ฟูลด้วยสีคลายร้อนแห่งความสนุกสนานอย่าง “สีเขียวเหลือง” ที่จะช่วยเนรมิตบรรยากาศในบ้านของคุณให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความคลาสสิคในยุค 80 ผสมผสานกับสไตล์วินเทจเบาๆ เป็นสีที่มองแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สามารถช่วยเพิ่มพลังในการทำสิ่งต่างๆ ในแต่ละวัน อีกทั้งยังทำให้บ้านดูสว่างขึ้น อาจเลือกทาสีบ้านเป็นสีเขียวใช้เฟอร์นิเจอร์สีเหลือง หรือทาสีเหลืองแต่ใช้เฟอร์นิเจอร์สีเขียว อาจจะนำรูปภาพศิลปะในโทนเขียวเหลืองมาตกแต่งเพิ่มก็ดูเข้ากัน

เขียวเหลือง7

เขียวเหลือง1

เขียวเหลือง2

เขียวเหลือง5

สีโทนเย็น #สีเขียว

ทาสีบ้านสีเขียว_3

“สีเขียว” เปรียบเสมือนสีของธรรมชาติที่แท้จริง มองแล้วทำให้รู้สึกสบายตาสบายใจ สัมผัสถึงกลิ่นอายของต้นไม้ใบไม้ จึงเหมาะสำหรับห้องที่ต้องใช้เวลาอยู่ด้วยเป็นเวลานานๆ อย่างห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เป็นการ ทาสีบ้านโทนเย็น ที่แสดงถึงความอบอุ่นภายในครอบครัว อาจจะใช้เป็นสีเขียวสดหรือสีเขียวเข้มเพื่อเพิ่มความสดใสให้กับบ้าน นำมาตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีขาว สีเทา หรือเลือกเป็นสีเขียวอ่อน ก็ช่วยให้ดูน่ามองมากยิ่งขึ้น

ทาสีบ้านสีเขียว_2

ทาสีบ้านสีเขียว

ทาสีบ้านสีเขียว_4

ทาสีบ้านสีเขียว_5

สีโทนเย็น #สีน้ำเงิน

น้ำเงิน7

ใครที่ชื่นชอบความสงบ สุขุม นุ่มลึก ลองเปลี่ยนมาทาสีบ้านโทนเย็น ด้วย “สีน้ำเงิน” เป็นสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำแบบใคร โดยเฉพาะห้องทำงานสามารถช่วยให้คุณเกิดไอเดียความคิดสร้างสรรค์ หรือจะใช้สีน้ำเงินในห้องนอน หรือส่วนของ outdoor ก็ให้อารมณ์เท่ดูแปลกตา อาจเลือกเฟอร์นิเจอร์สีขาวในสไตล์โมเดิร์น แต่ถ้าใครเน้นความหรูหราแนะนำว่าให้เลือกเป็นโซฟาผ้ากำมะหยี่ หรือโต๊ะสีสันสดใสก็ดูเข้ากัน

น้ำเงิน2

น้ำเงิน4

น้ำเงิน5

น้ำเงิน8

สีโทนเย็น – สีม่วงน้ำเงิน

น้ำเงินม่วง

มาเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านให้ดูน่าค้นหากับ “สีม่วงน้ำเงิน” ซึ่งเป็นสีที่หลายๆ คนอาจไม่กล้าที่จะนำมาใช้ทาสีบ้านกันเท่าไหร่ แต่อยากบอกว่าสีนี้กำลังเป็นสีที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะแสดงถึงความมีเสน่ห์ เซ็กซี่ ของรสนิยมเจ้าของบ้าน สามารถแต่งได้หลายสไตล์ทั้ง Modern, Contemporary หรือ Vintage สีม่วงน้ำเงินเหมาะสำหรับการตกแต่งในห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นห้องที่ใช้สำหรับการพบปะสังสรรค์เพิ่มความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น

น้ำเงินม่วง3

น้ำเงินม่วง_2

น้ำเงินม่วง4

น้ำเงินม่วง5

สีโทนเย็น #สีขาว

ทาสีบ้านสีขาว_8

การทาสีบ้านโทนเย็นอย่าง “สีขาว” เป็นสีที่แสดงถึงความสงบ สบาย ดูสะอาดตา เหมาะสำหรับทุกๆ ห้องภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว การตกแต่งบ้านด้วยโทนสีขาวไม่จำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์สีขาวเสมอไป แนะนำว่าควรเลือกเป็นเฟอร์นิเจอร์สีไม้หรือสีเทา เพื่อเป็นการเพิ่มมิติให้ดีไซน์ของตัวบ้าน หรือถ้าชอบแนวสดใสอาจจะใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์สีแดงสดก็ดูโมเดิร์นไปอีกแบบ

ทาสีบ้านสีขาว_1

ทาสีบ้านสีขาว_2

ทาสีบ้านสีขาว_4

ทาสีบ้านสีขาว_3

สีโทนเย็น #สีฟ้า

blue

ปิดท้ายกันด้วยสีคลายร้อนอย่าง “สีฟ้า” เป็นอีกหนึ่งสีที่บ้านส่วนใหญ่เลือกใช้ เปรียบเสมือนการนำเอาทะเลมาไว้ภายในบ้าน ได้อารมณ์เย็นสบาย เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้บ้านสดใสที่มีชีวิตชีวา แต่ถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายของบ้านพักตากอากาศให้มากขึ้น ลองหยิบคอลเลกชั่นกรอบรูปของคุณมาตกแต่ง เพิ่มเติมด้วยเก้าอี้หวายสักตัว รับรองว่าได้ฟีลวินเทจ ผสมผสานกับทาสีบ้านโทนเย็นและเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว

สีฟ้า4

สีฟ้า3

สีฟ้า5

สีฟ้า1

การทาสีบ้านโทนเย็นนั้นนอกจากจะช่วยสร้างอารมณ์และบรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลายแล้ว ยังสามารถทำให้สมาชิกที่อยู่ในบ้านมีรอยยิ้มอีกด้วย เพียงเลือกใช้โทนสีที่คุณชอบและเหมาะสมกับบ้านของคุณ คราวนี้อยากให้บ้านเป็นแบบไหนก็ใช้สีเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร รับรองว่าคุณจะต้องมีความสุขในการแต่งบ้านอย่างแน่นอน

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากCR : pinterest.com & https://www.central.co.th/e-shopping/cool-paint-colors/

พฤกษา ผนึกพันธมิตรชั้นนำลุยก่อสร้างคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย การันตีคุณภาพงานก่อสร้าง พร้อมส่งมอบปี 2565

พฤกษา ผนึกพันธมิตรชั้นนำลุยก่อสร้างคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย การันตีคุณภาพงานก่อสร้าง พร้อมส่งมอบปี 2565

 

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารจากบริษัทพันธมิตรงานก่อสร้าง, งานระบบ, เครื่องใช้ไฟฟ้า และชุดครัวระดับชั้นนำ ร่วมพัฒนาโครงการ “เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย” คอนโดมิเนียมสูง 29 ชั้น มูลค่าโครงการ 2,038 ล้านบาท ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างและงานตกแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นนำในทุกขั้นตอน โดยโครงการเริ่มงานก่อสร้างแล้วบางส่วน คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถส่งมอบได้ภายในปี 2565ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับมอบห้องชุดที่สวยงามได้คุณภาพมาตรฐานในระดับสากล

พฤกษา ผนึกพันธมิตรชั้นนำลุยก่อสร้างคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย การันตีคุณภาพงานก่อสร้าง พร้อมส่งมอบปี 2565

เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย คอนโดที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายอยู่รอบตัวอาคารและชั้นพักอาศัย โดยไฮไลท์ของโครงการคือ Bird Nest Sculpture บนชั้นดาดฟ้าที่ออกแบบคล้ายกับรังนก ภายในเป็นห้องฟิตเนส Fitness ที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำยาว 24.5 เมตร สามารถว่ายวนได้ 360 องศา พร้อมสระท้องกระจกและผนังกระจกที่ยื่นออกจากขอบสระ ชมวิวเมืองได้แบบ Bird Eye View พร้อม Aqua Theatre ให้ดูหนังอย่างเพลิดเพลินในสระจากุซซี่ โครงการอยู่ติดถนนพัฒนาการ ใกล้แอร์พอร์ตลิ้งค์รามคำแหงเพียง 300 เมตร และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ใกล้ท่าเรือคลองตัน ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท สอบถามข้อมูลโทร 1739

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.ryt9.com/s/prg/3084298

3 วัสดุ หลังคาโปร่งแสง

3 วัสดุ หลังคาโปร่งแสง

 3 วัสดุ หลังคาโปร่งแสง

แผ่นโพลีคาร์บอเนต (แผ่นตัน)

แผ่นโพลีคาร์บอเนต (แผ่นตัน)

 

แผ่นโพลีคาร์บอเนต (แผ่นตัน)

 

วัสดุประเภทเดียวกับโพลีคาร์บอเนตแผ่นกลวง แต่มาในรูปแบบของแผ่นตันจึงทำให้เกิดแผ่นใสที่โปร่ง มองเห็นทะลุได้ มีข้อดีมากกว่าแผ่นหลังคาอะครีลิค แต่ทนทานกว่าซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากกว่าเช่นกัน

ข้อเด่น

  • ทนทาน
  • มีความยืดหยุ่นสูง
  • สามารถดัดโค้งได้
  • ไม่ลามและติดไฟ
  • เป็นฉนวนแต่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า

ข้อด้อย

  • ราคาสูง
  • มีน้ำหนักที่มาก
  • ถ้าใช้ความหนาที่น้อย(2-3 mm) อาจตกท้องช้างเกิดเป็นน้ำขังได้

หลังคากระจก

หลังคากระจก

หลังคากระจกวัสดุดั้งเดิมสำหรับการทำหลังคาโปร่งแสง มีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นกระจกธรรมดา กระจกสี หรือกระจกขุ่นพ่นทรายที่ให้แสงนวลตา แต่ด้วยเป็นกระจกที่แม้จะแข็งแรงแต่ก็มีความเปราะด้วยเช่นกัน จึงต้องมีการเพิ่มคุณสมบัติลดการแตกเปราะด้วยการอบ Tempered หรือสอดฟิล์มนิรภัย Laminated จึงทำให้การใช้กระจกเป็นวัสดุมุงหลังคานั้นมีราคาที่สูงตามมา
ข้อเด่น

  • สวยงานออกแบบได้หลากหลาย
  • สามารถป้องกันความร้อนได้ด้วยการติดฟิลม์กันความร้อน
  • มีคุณสมบัติให้เลือกได้หลากหลาย

ข้อด้อย

  • ราคาสูง
  • มีน้ำหนักมาก
  • เปลืองค่าโครงสร้าง
  • หากใช้เป็นหลังคาอาจจะต้องใช้กระจกประเภท Tempered, Laminated หรือ Tempered Laminated เพื่อความปลอดภัย

ต่อเติมห้องบนดาดฟ้าตึกแถวเก่าได้หรือไม่


แผ่นหลังคาไฟเบอร์กลาส

แผ่นหลังคาไฟเบอร์กลาสแผ่นหลังคาไฟเบอร์กลาส

แผ่นหลังคายอดฮิตที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง แม้จะเป็นวัสดุธรรมดาที่หาได้ทั่วไป แต่หากจัดวางอย่างถูกต้องโดยผ่านการออกแบบที่ดีก็ทำให้หลังคาของบ้านดูดีได้เหมือนกัน ข้อดีที่สุดของหลังคาประเภทนี้คือติดตั้งร่วมกับหลังคามาตรฐานเช่นกระเบื้องลอนคู่ได้ทันที ปัจจุบันแผ่นหลังคาไฟเบอร์กลาสนั้นมีโปรไฟล์หน้าลอนที่หลากหลายมากขึ้นสามารถนำไปประยุกต์เข้ากับพื้นหลังคาเดิมได้โดยสะดวก

ข้อเด่น

  • ราคาย่อมเยาว์
  • สามารถติดตั้งร่วมกับแผ่นหลังคามาตรฐานได้
  • น้ำหนักเบา

ข้อด้อย

  • โปร่งแสงแต่ไม่โปร่งใส
  • อายุการใช้งานสั้น
  • เมื่อใช้งานไปซักพักจะเกิดรอยเป็นเส้นๆจากการถูกความร้อนของแสงแดด

 

และทั้งหมดนี้ก็คือวัสดุมุง หลังคาโปร่งแสง (และโปร่งใส)ที่เรานำมาแนะนำกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละวัสดุนั้นก็ต่างมีทั้งข้อเด่นข้อด้อยที่แตกต่างกันไป จึงอยากให้ลองมองถึงการใช้งานรวมไปถึงอายุของวัสดุที่เหมาะสมต่อเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและสร้างความสวยงามน่าอยู่ให้กับบ้านครับ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.baanlaesuan.com/89665/maintenance/skyroof/2

เรื่อง วุฒิกร สุทธิอาภา

5 วิธีกำจัดสนิม และน่าลองทำเองได้

5 วิธีกำจัดสนิม และน่าลองทำเองได้

     5 วิธีกำจัดสนิม และน่าลองทำเองได้

เมื่อวัสดุโลหะโดนน้ำ และเราปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นเพียงไม่กี่วัน กระบวนการแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ก็จะเกิดขึ้น และผลก็คือการเกิดสนิม แต่เมื่อเครื่องมือเครื่องใช้ของเรามีสนิม ก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเลิกใช้ หรือโยนทิ้งเสมอไป หากรู้วิธีที่ถูกต้องในการขจัดสนิม ดังต่อไปนี้

1.เบกกิ้งโซดา : ให้นำเอาอุปกรณ์โลหะที่ขึ้นสนิมนั้น ไปล้างน้ำ แล้วสะบัดให้แห้ง จากนั้นให้โรยเบกกิ้งโซดาลงไป เบกกิ้งโซดาจะติดอยู่กับบริเวณที่มีความชื้น ต้องแน่ใจว่า เบกกิ้งโซดา ปิดคลุมบริเวณที่เป็นสนิมไว้ทั้งหมดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยก่อนจะใช้แปรงขัดคราบสนิมนั้นออก ล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง วิธีการนี้ ได้ผลดีกับวัสดุจำพวกกระทะ แหวนและโลหะบาง ๆ เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเพราะใช้ของที่มีอยู่ในครัวเรือน แต่ก็มีข้อเสียคือ หลังโรยเบกกิ้งโซดาแล้ว ต้องทิ้งไว้นาน และต้องออกแรงขัด

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

2.น้ำส้มสายชู : นำอุปกรณ์ที่เป็นสนิม ไปแช่ในน้ำส้มสายชู แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นนำขึ้นมาขัดด้วยแปรง ในกรณีที่วัสดุมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถนำลงไปแช่ได้ ให้ใช้ผ้าขี้ริ้วจุ่มลงในน้ำส้มสายชู จากนั้นเอามาห่อจุดที่เป็นสนิม วิธีการนี้เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ต้องแช่ทิ้งไว้นานข้ามคืนจึงจะให้ผลที่ดี

 

3.มันฝรั่งและน้ำยาล้างจาน : ฟังดูเหมือนไม่น่าเชื่อว่าของพวกนี้จะใช้ขจัดสนิมได้ แต่จริง ๆ แล้ว สามารถใช้ได้ดีเสียด้วย ให้ผ่าครึ่งมันฝรั่ง จากนั้นก็นำน้ำยาล้างจานทาลงไป ให้ใช้มันฝรั่งเสมือนเป็นอุปกรณ์ในการขัด วิธีนี้ให้ผลดีกับการขจัดสนิมในบริเวณที่ไม่มากนัก บนพื้นผิวที่ขัดง่าย เช่นพวกเครื่องครัว แต่วิธีนี้ ค่อนข้างจะทำให้เลอะเทอะ ควรทำในอ่างน้ำ หรือบริเวณนอกบ้านที่ทำความสะอาดง่าย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กรดซิตริก

4.กรดซิตริก : วิธีการคือ ให้นำน้ำร้อนใส่ลงในถ้วย แล้วใส้กรดซิตริกใส่ลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำอุปกรณ์ที่เลอะสนิม ลงไปแช่ทิ้งไว้ทั้งคืน พอตอนเช้าให้ใช้แปรงขัดออกแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง แต่ทั้งนี้กรดซิตริกนี้ อาจจะหาซื้อได้ไม่ง่ายนัก ต้องเลือกซื้อจากร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพ หรือตามร้านค้าออนไลน์

5.มะนาวและเกลือ : ให้นำเกลือไปทาให้ทั่วบริเวณที่มีสนิม จากนั้นให้ผ่ามะนาว และบีบน้ำลงไป ทิ้งไว้สักพักหนึ่ง แล้วจึงขัดออก ถ้าหากขัดแล้ว ยังมีสนิมหลงเหลืออยู่ ก็ให้ทำซ้ำอีก โดยทิ้งไว้ให้นานขึ้นอาจจะเป็น 1-2 ชั่วโมง เมื่อขัดสนิมออกแล้วก็ให้ล้างและเช็ดให้แห้ง วิธีนี้ใช้กับเครื่องครัว เช่นมีด ได้ดี และเพื่อความปลอดภัย ควรสวมถุงมือ

 

ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.sanook.com/home/13733/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า