ตุรกีจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ เหล็กทรงแบน เหล็กทรงยาว ท่อเหล็ก สเตเลส และอุปกรณ์ที่ใช้กับทางรถไฟ เป็นระยะเวลา 200 วัน นับจากวันที่ 20 กันยายน โดยที่ตุรกีจะมีการใช้มาตราการนี้ ก็ต่อเมื่อมีสินค้าเหล่านี้ในตลาดภายในประเทศมากเกินไป โดยอ้างอิงมาจากคำสั่งที่ประกาศในเช้าวันพฤหัสบดี ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการของประเทศ กระทรวงการค้าของตุรกี ได้ทำการเปิดไต่สวนเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน เพื่อพิจารณาว่ามาตรการปกป้องที่จะใช้บังคับกับสินค้านําเข้าจากทุกประเทศโดยไม่คํานึงถึงแหล่งที่มาของสินค้า (safeguard measures) นั้นมีความจำเป็นเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศจากการนำเข้าหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างการรายงานเมื่อช่วงสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา. การไต่สวนได้ครอบคลุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์ เหล็กทรงแบน เหล็กทรงยาว ท่อเหล็ก และสเตเลส ภายใต้รหัสพิกัดศุลกากรดังต่อไปนี้ 72.08, 72.09, 72.10, 72.11, 72.12, 72.13, 72.14, 72.15, 72.16, 72.17, 72.25, 72.26, 72.27, 72.28, 73.02, 73.04, 73.05, 73.06, 72.19, 72.20.
จากประกาศของพระราชกฤษฎีกาที่ Platts ได้รับทราบ โควตาภาษีของตุรกีสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะมีปริมาณผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนอยู่ที่ 3.11 ล้านตัน เหล็กทรงยาวอยู่ที่ 558,534 ตัน ท่อเหล็กอยู่ที่ 273,901 ตัน สเตนเลสอยู่ที่ 139,934 ตัน และอุปกรณ์ที่ใช้กับทางรถไฟ อยู่ที่ 27,044 ตัน
Platts ทราบมาว่า ตุรกีจะไม่นำมาตรการภาษีนำเข้าเพิ่มเติมเหล่านี้ไปใช้กับประเทศที่กำลังพัฒนา
— Cenk Can
แหล่งที่มา : SteelBB
Cr. iiu.isit.or.th