โดย khwankaew | ธ.ค. 3, 2025 | ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก
สำนักงานดับเพลิงท้องถิ่นของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ในเมืองมุโระรัน จังหวัดฮอกไกโด ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น ในช่วงเช้ามืดวันที่ 1 ธ.ค.2025 ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่และเศษซากคอนกรีตกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
รายงานระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงานนอร์ทเจแปนเวิร์ก (North Japan Works) ของนิปปอน สตีล ได้โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินเมื่อเวลาประมาณ 00.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น (02.55 น. ตามเวลาไทย) โดยระบุว่าบ้านเรือนของพวกเขาสั่นสะเทือน และอาจมีเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่โรงงานดังกล่าว ก่อนที่ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งเดินทางถึงที่เกิดเหตุจะยืนยันว่า เตาหลอมความร้อนสูงเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ภายในโรงงาน
สำนักงานดับเพลิงเปิดเผยว่า คนงานประมาณ 10 คนที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนั้นได้รับการอพยพออกไปแล้ว และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ไฟยังคงลุกไหม้อย่างรุนแรง และเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการควบคุมเพลิงให้สงบ
ขณะนี้ บริษัทได้สั่งระงับการทำงานของเตาหลอม และอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายของอุปกรณ์ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานและการขนส่ง ส่วนสาเหตุของการระเบิดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
แหล่งที่มา ryt9.com/
โดย khwankaew | ส.ค. 29, 2025 | ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ว่า ได้ออกข้อกำหนดในการเรียกเก็บภาษีป้องกันการทุ่มตลาด (anti-dumping duties – AD) และภาษีตอบโต้ (countervailing duties -CVD) กับ 10 ประเทศ หลังจากทำการสอบสวนเกี่ยวกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กที่ทนทานต่อการกัดกร่อน
กระทรวงพาณิชย์ระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อกำหนดดังกล่าวครอบคลุมการนำเข้าสินค้าดังกล่าวมูลค่ารวม 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากประเทศออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ ไต้หวัน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม
การสอบสวนของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ พบว่า ประเทศเหล่านี้มีพฤติกรรมทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์เหล็กทนการกัดกร่อน โดยขายในราคาต่ำเกินไปอย่างไม่เป็นธรรม หรือมีการให้เงินอุดหนุนที่ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ได้รับความเสียเปรียบอย่างมาก
ทั้งนี้ เหล็กทนการกัดกร่อนส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในการผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ซึ่งการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายเพื่อปกป้องบริษัทและแรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ จากพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม
แหล่งที่มา https://www.ryt9.com/s/iq29/12742325
โดย khwankaew | ส.ค. 20, 2025 | ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก
นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การกลับมาผลิตในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการฟื้นตัวของมิลล์คอน แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมเหล็กและคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ว่าบริษัทมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี และคุณภาพการผลิต เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่
ซึ่งผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ได้สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณบวกที่ชัดเจน โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรืออีบิทด้า (EBITDA) ได้พลิกกลับมาเป็นบวกที่ 159 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน และเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต
ทั้งนี้ มิลล์คอนฯมีแผนที่จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากหนึ่งโรงงาน และเตรียมขยายสู่การผลิตที่จังหวัดระยองและมิลล์คอน บูรพา ในระยะถัดไป รองรับความต้องการใช้เหล็กมาตรฐานคุณภาพของตลาดที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการกลับมาผลิตในครั้งนี้ มิลล์คอนฯยังได้พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตด้วย เทคโนโลยีเตาหลอมไฟฟ้า Electric Arc Furnace (EAF) ที่สามารถหลอมเศษเหล็กได้ทุกประเภท ควบคุมคุณภาพได้แม่นยำ มีความบริสุทธิ์สูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับการผลิตเหล็กตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของไทย (มอก.) โดยบริษัทวางเป้าหมายกลับมาผลิตเหล็กอีกครั้งในปริมาณกว่า 800,000 ตันต่อปี
อย่างไรก็ตาม มิลล์คอนฯย้ำจุดยืนในการ “ฟื้นคืนชีพ” สู่อุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทเหล็กชั้นนำที่แข็งแกร่งอีกครั้ง และสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/economy/news-1867848
โดย khwankaew | ส.ค. 20, 2025 | ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก
ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กกล้าแห่งญี่ปุ่นได้ทำเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาลในวันนี้ (18 ส.ค.) ให้เร่งออกมาตรการเพื่อสกัดกั้นการหลบเลี่ยงภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด อันเป็นมาตรการเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากการนำเข้าอันไม่เป็นธรรม
สมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมอีก 4 แห่ง ชี้แจงว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน เนื่องจากประเทศอย่างจีนพยายามหลบเลี่ยงภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด โดยใช้วิธีส่งสินค้าผ่านประเทศที่สาม หรือนำไปแปรรูปเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธีเพื่อหลบเลี่ยงภาษีศุลกากร
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น ในขณะที่การส่งออกเหล็กกล้าของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และได้จุดชนวนให้ชาติต่าง ๆ ทั่วโลกหันมาใช้นโยบายกีดกันทางการค้าเพื่อปกป้องตนเอง โดยมีถึงเกือบ 40 ประเทศที่ได้ริเริ่มการไต่สวนเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ของปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นเพิ่งเปิดฉากการไต่สวนข้อกล่าวหาที่ว่าสินค้าเหล็กกล้าจากจีนและเกาหลีใต้ถูกส่งเข้ามาตีตลาดในราคาที่ต่ำกว่าปกติอย่างไม่เป็นธรรม หลัง 4 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเหล็กกล้าในประเทศยื่นเรื่องร้องเรียน
กลุ่มบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าของญี่ปุ่นชี้ว่า สินค้าเหล็กกล้าที่ทะลักเข้ามานั้นเป็นผลมาจากการผลิตที่ล้นตลาดในจีนและภูมิภาคอื่น ทำให้ถูกนำมาขายตัดราคาในญี่ปุ่นอย่างหนัก จนส่งผลให้บริษัทท้องถิ่นต้องยอมลดราคาลงเพื่อความอยู่รอด
ทาคานาริ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการสมาพันธ์เหล็กกล้าฯ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า ถึงแม้จะบังคับใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดได้ แต่หากไม่มีมาตรการป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี ประสิทธิผลของมาตรการก็จะด้อยลงไปอย่างมาก พร้อมเน้นย้ำว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการทำให้ระบบตอบโต้การทุ่มตลาดมีความรัดกุมและประกันให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ไม่ใช่การมุ่งไปสู่ลัทธิกีดกันทางการค้า
ตามข้อมูลของสมาพันธ์ฯ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 20 ชาติ (G20) มีถึง 18 ประเทศที่มีระบบป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีอยู่แล้ว คงเหลือเพียงญี่ปุ่นและอินโดนีเซียเท่านั้นที่ยังไม่มีกฎหมายในลักษณะดังกล่าว
ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน หากญี่ปุ่นประสงค์จะจัดการกับการหลบเลี่ยงภาษี ก็จำต้องเริ่มต้นกระบวนการไต่สวนเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมจึงเรียกร้องให้รัฐบาลบัญญัติกฎเกณฑ์ทางภาษีขึ้นมาเป็นการเฉพาะ แยกจากภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดที่มีอยู่ ภายใต้การปฏิรูปภาษีซึ่งจะมีขึ้นในปีงบประมาณหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีข้อเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนพนักงานสอบสวนทางการค้าและปรับปรุงระบบการไต่สวนให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
แหล่งที่มา : https://www.ryt9.com/
โดย khwankaew | พ.ย. 5, 2024 | ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก
นายตารุณ คูมาร์ ดากา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 67/68 (ต.ค. 67 – มี.ค. 68) ในส่วนของปริมาณการขายเหล็กที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ทำได้ 589,000 ตัน จากอานิสงส์ของยอดขายเหล็กในประเทศไทย คาดหวังจะเริ่มเห็นการผลักดันการลงทุนของโครงการภาครัฐออกมามากจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีจากครึ่งปีแรกที่ชะลอการเบิกจ่าย
ขณะเดียวกัน พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะเห็นการซ่อมแซมและปรับปรุงอาคารบ้านเรือน ทำให้มีความต้องการใช้เหล็กเพิ่มขึ้น และภาครัฐได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และใช้งบประมาณปรับปรุงถนนและสิ่งปลูกสร้างที่พังเสียหาย ส่งผลบวกต่อความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“ปัจจัยในประเทศเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักที่เข้ามาช่วยชดเชยการชะลอตัวของความต้องการใช้เหล็กในประเทศจีนที่ปรับตัวลง จากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นกลับมา” กรรมการผู้จัดการใหญ่ TSTH กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยังมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งเข้ามากระทบภาพรวมของเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ แต่บริษัทยังมั่นใจว่าปริมาณการขายเหล็กในปี 67/68 จะยังทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.12 ล้านตัน แต่อาจจะมีปัจจัยกดดันในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนหลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ผลการดำเนินงานในรูปของเงินบาทที่ได้รับผลกระทบอยู่บ้าง
ขณะที่ในปี 68 ยังคงต้องรอติดตามในส่วนของภาพเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าปัจจุบันทิศทางดอกเบี้ยจะเริ่มเห็นการปรับตัวลดลง แต่ภาพของการบริโภคยังไม่ฟื้นกลับมา โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง จีน ที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อชะลอตัว และมีผลต่อการลงทุนที่ชะลอตามไปด้วย ประกอบกับยังต้องรอติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งมีผลต่อนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และมีผลต่อการเตรียมกลยุทธ์ของบริษัทในปีหน้าด้วยเช่นกัน
แหล่งที่มา: https://www.ryt9.com