google.com, pub-1539147387772263, DIRECT, f08c47fec0942fa0
อุตสาหกรรมเหล็กไทย เข้าขั้นวิกฤต จับตาปิดตัวระนาว

อุตสาหกรรมเหล็กไทย เข้าขั้นวิกฤต จับตาปิดตัวระนาว

อุตสาหกรรมเหล็กไทย เข้าขั้นวิกฤต จับตาปิดตัวระนาว

อุตสาหกรรมเหล็กไทย เข้าขั้นวิกฤต จับตาปิดตัวระนาว

อุตสาหกรรมเหล็กไทย เข้าขั้นวิกฤต จับตาปิดตัวระนาว บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3946

ผลกระทบจากการฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจนของเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงในประเทศส่วนใหญ่ ล้วนเป็นข้อจำกัดการฟื้นตัวของอุปสงค์เหล็กโลก โดยสมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) คาดการณ์ว่า ปี 2556 ความต้องการใช้จะฟื้นตัวเพียง 2.3% เป็น 1,822.3 ล้านตัน  

แม้ว่า จะมีปัจจัยบวกจากการปรับตัวของยุโรป ที่แก้ปัญหาขาดแคลนพลังงาน และการผ่อนคลายปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งการเติบโตของอุปสงค์จากแรงหนุนของภูมิภาคต่างๆ ยกเว้นจีน ซึ่งความต้องการใช้เหล็กในประเทศยังทรงตัว 

ขณะที่สถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กในส่วนของผู้ผลิตเหล็กในประเทศช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่สู้ดีนักจากการที่มีเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในราคาตํ่า กระทบผู้ประกอบการในประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันลดลง ล่าสุดบริษัท โรงงานเหล็กกรุงเทพฯ จำกัด ต้องประกาศเลิกจ้างพนักงาน หลังขาดทุนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง  

 

การเลิกจ้างคนงานของ บริษัท โรงงานเหล็กกรุงเทพ จากปัญหาภาวะขาดทุนสะสมนั้น อาจจะเรียกว่า เป็นการปิดตำนานโรงเหล็กทรงยาวในประเทศไทย โดยโรงเหล็กกรุงเทพเป็นโรงงานสุดท้ายที่มีไลน์การผลิตมายาวนานถึง 59 ปี  

ทั้งนี้ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 มีธุรกิจเหล็กปิดตัวไปแล้ว 75 ราย หรือ ลดลง 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ปิดตัวไปถึง 117 ราย ส่วนทุนจดทะเบียนธุรกิจที่เลิกกิจการ คิดเป็นมูลค่า 393.06 ล้านบาท โดยมีข้อน่าสังเกตว่า ธุรกิจเหล็กที่ปิดตัวลงไปส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตรายกลางและรายเล็ก  

ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจเกี่ยวกับเหล็กที่ยังคงอยู่ 4,855 ราย แต่วงการเหล็ก มีการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กว่า กำลังจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในปี 2567 จากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตเหล็กสัญชาติจีน ที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย 

 

หลังจากที่รัฐบาลไทยอนุญาตให้โรงงานเหล็กจากจีน เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศ โดยใช้เตาหลอมแบบ IF หรือ induction furnace ซึ่งเป็นเตาประเภทที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและในประเทศจีนไม่อนุญาตให้ใช้เตาหลอมแบบนี้แล้ว 

ขณะที่โรงงานเหล็กที่เลิกดำเนินกิจการไป จะใช้เตาหลอมแบบ EAF หรือ electric arc furnace สำหรับรีดเป็นเหล็กเส้นและเหล็กลวด ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า   

นอกจากนั้น ความต้องการใช้เหล็กในจีนที่ทรงตัว แต่โรงงานเหล็กได้เพิ่มปริมาณการผลิตเหล็กอย่างมากเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี จึงมีการส่งออกสินค้าเหล็กทุ่มตลาดจำนวนมาก จากจีนไปยังภูมิภาคต่างๆ รวมถึงอาเซียนและไทยด้วย

แม้รัฐบาลจะใช้มาตรการภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด แต่ก็ยังไม่สามารถสกัดได้มากนัก จึงต้องศึกษาเชิงลึก เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศให้สามารถแข่งขันและอยู่รอดในระยะยาวได้ 

แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

“อุตสาหกรรมเหล็ก”วิกฤติหนัก หลังจีนทุ่มตลาดกดราคาขาย

“อุตสาหกรรมเหล็ก”วิกฤติหนัก หลังจีนทุ่มตลาดกดราคาขาย มิลล์คอนวอนภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน แนะบูรณาการทั้งระบบตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

    นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ เข้าขั้นวิกฤตและกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากหลายปัจจัยโดยเฉพาะการถูกดั้มราคา หรือการถูกทุ่มตลาดจากสินค้าจีนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ พบว่ามีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูป 9 เดือนสะสมจากจีน ในปี 2565 มีจำนวน 2,847,869 ตัน และปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,490,987 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 22.6% (ข้อมูลจาก สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย) บวกกับต้นทุนการผลิตจากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่งผลให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้

สำหรับกลุ่มมิลล์คอนฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในประเทศ หนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบดังกล่าวไปด้วย ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กโดยด่วน 

โดยส่วนตัวมองว่าภาครัฐจะต้องเข้ามาบูรณาการทั้งระบบตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง  เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับผู้ประกอบการในประเทศให้สามารถแข่งขันได้  ซึ่งในเบื้องต้นมีข้อเสนอ 3 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย
  • ปัญหาของเศษเหล็ก ที่ปัจจุบันโรงหลอมทั้งหมดในประเทศมีปัญหาเรื่องของการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยผู้ผลิตเหล็กในฐานะผู้ซื้อผู้บริการ ที่อยู่ในระบบภาษีถูกต้อง สามารถเป็นผู้นำส่งภาษีให้กับทางกรมสรรพากรแทนผู้ขายได้ หรืออาจใช้ในรูปแบบ No VAT เช่นเดียวกับสินค้าเกษตร เนื่องจากเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคเช่นกัน
  • ภาครัฐควรเร่งเข้ามาดูแลเรื่องของราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า และน้ำมัน ที่จะมีผลต่อการขนส่งสินค้า เนื่องจากขณะนี้ราคาพลังงานที่ใช้ในปัจจุบัน ยังคงเป็นต้นทุนที่สูงอยู่ แม้ภาครัฐจะมีการช่วยเหลือปรับอัตราราคาให้ต่ำลงกว่าเดิมแล้วก็ตาม 
  • ผู้ผลิตเหล็กในประเทศ ต้องการให้ภาครัฐขยายการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานเหล็กเส้นในประเทศไทยออกไปอีก ซึ่งประกาศดังกล่าว ระบุไว้ว่าประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตทุกขนาด ทุกท้องที่ ในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งประกาศมีขึ้นในปี 2563 และจะครบกำหนดในปี 2568 

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ไทยใช้แนวทางเดียวกับประเทศมาเลเซีย ที่ห้ามตั้งโรงงานเหล็กทุกประเภทเป็นเวลา 2 ปี ถือเป็นมาตรการที่ปกป้องตลาดเหล็กในประเทศได้อย่างมาก 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมิลล์คอนฯ มีการผลิตเหล็กเส้น เหล็กแท่งทรงยาว เหล็กเส้นข้ออ้อย และผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพสูงประเภทอื่นๆ รวมกำลังการผลิต 10,000-20,000 ตัน/เดือน หรือ 200,000 ตัน/ปี ซึ่งลดลงจากกำลังการผลิตเต็ม(Capacity) ที่มีถึง 600,000 ตัน/ปี กำลังการผลิตที่ไม่เต็มความสามารถดังกล่าว เกิดจากมีปริมาณเหล็กที่นำเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถผลิตเต็ม Capacity ที่มีได้ หรือใช้กำลังการผลิตเพียง 20-30% เท่านั้น 

ซึ่งสภาวะแบบนี้เกิดขึ้นกับทั้งอุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กในประเทศ และมีแนวโน้มว่ากำลังการผลิตของแต่ละบริษัทจะลดลงเรื่อยๆ หากปัญหาการดั้มราคาของเหล็กที่นำเข้าจากจีน ยังไม่ได้รับการแก้ไข 

และนี่ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ ที่ล่าสุดโรงงานเหล็กรายใหญ่และเก่าแก่ของไทยต้องปิดกิจการลง สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมเหล็กไทยเข้าขั้นวิกฤต
  
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯมีกำลังการผลิตแต่ใช้ไม่ได้ วิกฤตที่เกิดขึ้นทั้งหมดมิลล์คอนฯ และผู้ผลิตเหล็กในประเทศ ต่างวิตกกังวลอย่างมาก เพราะการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง เป็นผลจากการอนุญาตให้ตั้งโรงงานผลิตเหล็กเส้นเพิ่มเติมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่ได้ศึกษาความต้องการอย่างจริงจัง ทำให้กำลังการผลิตส่วนเกินเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นเหตุให้มีการแข่งขันเชิงการค้าขายอย่างสูง 

แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

“เหล็กนอก” ยึดตลาดไทย 60% บริโภคหด-ราคาลด ควบรวมกิจการหนึ่งทางรอด

“เหล็กนอก” ยึดตลาดไทย 60% บริโภคหด-ราคาลด ควบรวมกิจการหนึ่งทางรอด

“เหล็กนอก” ยึดตลาดไทย 60% บริโภคหด-ราคาลด ควบรวมกิจการหนึ่งทางรอด

     นายวิโรจน์ กล่าวว่า การบริโภคเหล็กของไทยในปี 2565 และ 2566 ค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในและการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมเหล็กไทยลดลงทุกผลิตภัณฑ์ โดยในปี 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 32% เมื่อเทียบกับ 36% ในปี 2565 เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ โรงงานเดินเครื่องผลิตเฉลี่ยเพียงวันละกะเดียวคือ 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ลดตํ่าลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเกิดโควิด ที่โรงงานเหล็กไทยยังใช้อัตราการผลิตเฉลี่ยอยู่ถึง 42% แต่ปัจจุบันหลือเพียง 32% โดยเฉลี่ย แต่สำหรับเหล็กบางประเภทลดตํ่าลงกว่าค่าเฉลี่ย อาทิ เหล็กแผ่นรีดร้อนลดลงจาก 30% เหลือเพียง 21% และโรงงานเหล็กลวดลดลงจาก 44% เหลือ 28%

“อัตราการใช้กำลังผลิตที่ลดลงเป็นผลจาก 2-3 ปัจจัย ได้แก่ การนำเข้าที่เพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตที่เกินความต้องการ บวกกับในปีนี้ประเทศจีนมีปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การบริโภคเหล็กของจีนลดลง โรงงานจีนจึงส่งออกมากขึ้นมายังกลุ่มอาเซียน สำหรับประเทศไทยใน 9 เดือนของปีนี้ การบริโภคเหล็กของไทยลดลง 1% ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.7% ทำให้เราผลิตลดลง 8.2%”

     ผู้บริโภคเหล็กในประเทศหด – ราคาลด

      สำหรับมูลค่าอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศของไทยเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ไทยบริโภคเหล็กคิดเป็นมูลค่าประมาณปีละ 500,000 ล้านบาท แต่ในช่วงหลังเกิดโควิดการบริโภคลดลง ซึ่งหากเปรียบเทียบช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566 ไทยบริโภคเหล็ก 12.55 ล้านตัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 12.67 ล้านตัน ถือว่าลดลง 1% อย่างไรก็ดีระดับราคาโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผู้ประกอบการไทยขายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 10-20% เช่น ราคาเศษเหล็กลดลง 19.6%, เหล็กเส้นกลมลดลง 12.8%, เหล็กเส้นข้ออ้อยลดลง 12.5%, เหล็กแผ่นรีดร้อน ลดลง 18.3% และเหล็กแผ่นรีดเย็นราคาลดลง 17.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจลดลงในสัดส่วนเดียวกัน

“เหล็กนอก” ยึดตลาดไทย 60% บริโภคหด-ราคาลด ควบรวมกิจการหนึ่งทางรอด      เหล็กนอกยึดตลาด 60%

      ขณะที่เหล็กนำเข้ามีส่วนแบ่งตลาดในประเทศอยู่ 60% และเหล็กผลิตในประเทศมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 40% เนื่องจากเหล็กนำเข้ามีราคาถูกกว่า โดยในระยะหลัง ๆ มานี้ในกลุ่มประเทศอาเซียน ประสบปัญหาการทุ่มตลาดของสินค้าจากประเทศจีน ซึ่งมีกำลังการผลิตมากเกินความต้องการ โดยเหล็กนำเข้า (สะสม 9 เดือน) ปี 2566 อยู่ในกลุ่มของเหล็กแผ่นรีดร้อน 2.86 ล้านตัน รองลงมาเป็นกลุ่มเหล็กแผ่นเคลือบชนิดต่าง ๆ 2.34 ล้านตัน กลุ่มเหล็กรีดเย็น 1.05 ล้านตัน และเหล็กลวดเกือบ 1 ล้านตัน

“เหล็กนำเข้า ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ตลาดหลักที่นำเข้ามา ได้แก่ จีน ปริมาณเพิ่มขึ้น +22.6% ญี่ปุ่น ปริมาณลดลง -4.9% เกาหลีใต้ ปริมาณลดลง -8.1% ไต้หวัน ปริมาณลดลง -25.3% เวียดนามปริมาณเพิ่มขึ้น +3.5% และอินโดนีเซีย ปริมาณเพิ่มขึ้น +35.9% ตามลำดับ (ดูกราฟิกประกอบ)”

    ควบรวมกิจการหนึ่งทางรอด

    ต่อคำถามที่ว่า เหล็กนำเข้าต้องผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก.ของไทยในทุกผลิตภัณฑ์หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไทยมีมาตรฐานบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบน และเหล็กทรงยาวในเวลานี้ 21 รายการซึ่งการที่ไทยมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและช่วยป้องกันไม่ให้เหล็กที่มีคุณภาพตํ่ามาขายในราคาถูกซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น เหล็กก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงอาจจะเกิดปัญหาอาคารถล่มหรือเหล็กเคลือบที่มีการลดต้นทุนเคลือบมาบางผิดปกติทำให้เกิดสนิมได้ง่าย

อย่างไรก็ดีผู้อำนวยการสถาบันเหล็กฯกล่าวช่วงท้ายว่า ปัจจุบันหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ปกป้องการจ้างงานภายในประเทศ มีมาตรการปกป้องการทุ่มตลาด (เอดี) รวมถึงมีการสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และยังมีโอกาสในอนาคตที่จะใช้มาตรการต่าง ๆ ให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น ส่งเสริมการใช้สินค้าไทยในโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง การใช้มาตรการการหลบเลี่ยงเอดี หรือที่เรียกว่า Anti Circumvention เป็นต้น

นอกจากนี้การบริหารกำลังการผลิตให้สมดุลก็มีความสำคัญ อาทิ การส่งเสริมการควบรวมกิจการ และไม่สร้างโรงงานที่ซํ้าซ้อนกับสินค้าที่เกินความต้องการอยู่แล้ว เป็นต้น

แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

อิฐพันปี คืออะไร

อิฐพันปี คืออะไร

  อิฐพันปี คืออะไร?

       อิฐเซรามิกหรือที่หลายๆคนอาจรู้จักกันในชื่ออิฐพันปี  อิฐพันปีเป็นวัสดุที่ใช้สำหรับงานก่อผนังที่มีคุณภาพสูง ซึ่งผลิตจากดินเหนียวธรรมชาติ พร้อมผ่านการเผาด้วยความร้อนอุณหภูมิที่สูงมากกว่า 1000 องศา เป็นการผลิตที่ใช้เทคโลโนยีจากประเทศเยอรมนี ขึ้นรูปด้วยวัตถุดิบและเทคนิคพิเศษ จึงทำให้อิฐพันปีมีขนาดที่ใหญ่ แข็งแรง และมีอัตราการดูซึมน้ำที่ต่ำ หมดปัญหาปูนฉาบแตกร้าว สีพองหลุดล่อนที่เกิดจากความชื่นได้เป็นอย่างดี                                                          – แข็งแรง ก่อฉาบง่าย ประหยัดเวลา

อิฐ

แนวคิดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อิฐเซรามิก ของซีบริคอิฐพันปี                                                                                                            

  • นวัตกรรมของอิฐก่อผนัง เจ้าเดียวในประเทศไทย
  • ผลิตภัณฑ์เน้นความเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรกันสิ่งแวดล้อม
  • รองรับตลาด DIY Product ( Interlock ) ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
  • ตอบโจทย์ของเจ้าของบ้านเรื่องความแข็งแรง ลดปัญหาการแตกร้าว
  • เป็นมิตรกับช่าง / ผู้รับเหมา / ผู้ออกแบบ และเจ้าของโครงาร
  • ลดขั้นตอนการทำงานและค่าใช้จ่ายของผนัง
  • ใช้ได้ทั้งผนังก่อ / ฉาบ และผนังก่อโชว์

 

รู้หรือไม่ เหล็กสามารถสั่งตัดได้

รู้หรือไม่ เหล็กสามารถสั่งตัดได้ ว่าด้วยเรื่องขนาดของเหล็กในหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น H-Beam, WF, เหล็กแผ่น และเหล็กอีกหลายๆประเภทที่ถูกผลิตออกมาตามขนาดมาตรฐาน แต่ในบางครั้งขนาดตามมาตรฐานโดยทั้วไปก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์กับผู้รับเหมาและลูกค้าได้ในทุกๆราย จึงเป็นปัญหาให้กับทางผู้รับเหมาต้องวิ่งดิ้นรนหาขนาดให้ได้ตามต้องการ ในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ในปัจจุบันจึงมีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ผู้รับเหมาต้องการ เพื่อช่วยลดปัญหาในด้านของการสั่งซื้อสินค้าแล้วไม่มีขนาดตามที่ต้องการ ในสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยให้สินค้าเหล็กสามารถตอบโจทย์ผู้รับเหมาได้ตามความต้องการ 

การตัดเหล็กด้วยใบเลื่อย (Band Saw) 

การตัดเหล็กด้วยใบเลื่อย ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ภายในโรงงาน ซึ่งเป็นใบเลื่อยที่มีขนาดใหญ่พิเศษเพื่อให้สามารถตัดเหล็กจำนวนหลายๆท่อน ได้ในเวลาเดียวกัน และมีความรวดเร็วกว่าอุปกรณ์ตัดเหล็กประเภทอื่นๆ แต่โรงงานต้องมีการวาแผนในการปฏิบัติงานอย่างถี่ถ้วน สมควรนำเหล็กประเภทไหน ขนาดเท่าไหร่ และนำไปใช้กับอุปกรณ์ประเภทไหนจึงจะมีความเหมาะสม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า