google.com, pub-1539147387772263, DIRECT, f08c47fec0942fa0
“SYS” ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก 2 องค์กรสำคัญ ตอกย้ำหลักธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจที่ห่วงใยใส่ใจสิ่งแวดล้อม

“SYS” ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก 2 องค์กรสำคัญ ตอกย้ำหลักธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจที่ห่วงใยใส่ใจสิ่งแวดล้อม

SYS ได้รับการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ จาก 2 องค์กรสำคัญ ตอกย้ำคุณภาพ ความปลอดภัย และความใส่ใจในการดำเนินงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

นายพงษ์ศักดิ์ แห่ล้อม กรรมการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ มานานกว่า 25 ปี เปิดเผยว่า SYS ได้รับการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14067:2018 จาก Bureau Veritas ที่ให้การรับรองครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกรายการของ SYS และได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ SYS โดยการนำ Carbon Footprint ไปใช้ประกอบการวางแผนการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานคือ Bureau Veritas และ อบก. เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในการดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองมาตรฐานการดำเนินงานในด้านสิ่งแวดล้อม

“SYS ให้ความสำคัญในเรื่องการใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนในทุกขั้นตอนกระบวนการผลิต ยึดมั่นในแนวคิดธุรกิจ Circular Economy หรือระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการนำวัตถุดิบกลับมาใช้ใหม่ด้วยการเลือกวัสดุคุณภาพที่มีแนวคิดรักษ์โลก และรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งไม่เพียงสนับสนุนแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ SYS ให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างคุณค่าให้กับองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้มุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวได้อย่างยั่งยืนด้วย” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวสรุป

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย (ตามข้อกำหนด ISO 14040) ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต/การประกอบชิ้นงาน การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน รวมถึงการขนส่งที่เกี่ยวข้อง โดยคำนวณออกมาในรูปของ กรัม, กิโลกรัม หรือตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

การที่องค์กรทราบถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ จะสามารถนำไปใช้วางแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระดับสูงสุด ขณะที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องมีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อ ซึ่งเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะช่วยในการตัดสินใจชื้อของผู้บริโภค และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือดาวน์โหลดเอกสารรับรอง คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ SYS ได้ที่ www.syssteel.com/download/#เอกสารรับรองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/prg/3379271
แหล่งที่มา : RYT9

ราคาเหล็กลวด (wire rod) ในเอเชียเพิ่มขึ้นและแกร่งขึ้นท่ามกลางระดับข้อเสนอขายที่สูงขึ้น

ราคาเหล็กลวด (wire rod) ในเอเชียเพิ่มขึ้นและแกร่งขึ้นท่ามกลางระดับข้อเสนอขายที่สูงขึ้น

ในสัปดาห์นี้เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ราคาเหล็กลวดในเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังจากระดับข้อเสนอขายที่เพิ่มขึ้น $10/ตัน โดยผู้ซื้อได้กลับไปหาซื้อสินค้า และระดับราคาที่ซื้อขายกันก็ปรับเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. Platts ประเมินราคาเหล็กลวด SAE1008 (mesh-quality) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ขนาด 6.5 มม. มีราคาที่ $555/ตัน FOB ประเทศจีน ราคาเพิ่มขึ้น $10/ตัน เทียบจากสัปดาห์ก่อนหน้า

โรงงานรายใหญ่ของจีนเสนอขายราคาเหล็กลวด สำหรับการขนส่งในเดือนกุมภาพันธ์ มีราคาที่ $570//ตัน FOB ประเทศจีน เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์/ตัน จากสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่เทรดเดอร์รายงานว่ามีการเสนอขายเหล็กลวดที่ราคา $560/ตัน FOB ประเทศจีน ด้านแหล่งข่าวของโรงงานได้รายงานว่า ขายสินค้าได้ที่ราคา $570/ตัน สำหรับการจัดส่งในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปลายทางหรือปริมาณ

“ในแง่ของสภาพคล่อง ความต้องการส่วนใหญ่มาจากยุโรป” ผู้ค้ารายหนึ่งในจีนกล่าว

“ตอนนี้ราคาค่อนข้างทรงตัว ราคากลับมาดีขึ้นหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์” เทรดเดอร์รายหนึ่งในฟิลิปปินส์กล่าว พร้อมเสริมว่า “ซัพพลายเออร์บางรายคาดหวังว่าราคาในตลาดจะดีขึ้น”

ในตลาดภายในประเทศของจีน ราคายังคงทรงตัวเนื่องจาก “อุปทานตึงตัวในระยะสั้น ขณะที่อุปสงค์ยังคงอ่อนแอเล็กน้อย” แหล่งข่าวจากผู้ค้ากล่าว

Platts ประเมินราคาในตลาดค้าปลีกของเซี่ยงไฮ้ สำหรับเหล็กลวด Q195 ขนาด 6.5 มม. ที่ 4,020 หยวน/ตัน ($562/ตัน) ex-stock ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 13% ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากในสัปดาห์ก่อน

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหล็กเส้น (rebar) ของจีนอ่อนตัวลง โดยวันที่ 23 พฤศจิกายน สัญญาเหล็กเส้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดในเดือนมกราคม 2023 ในตลาด Shanghai Futures Exchange ปิดที่ 3,691 หยวน/ตัน ($516/ตัน) ราคาลดลง 14 หยวน/ตัน ($2/ตัน) จากวันก่อน และลดลง 51 หยวน/ตัน ($7/ตัน) จากสัปดาห์ก่อนหน้า
แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights

ราคา HRC ในเอเชียทรงตัว เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ราคา HRC ในเอเชียทรงตัว เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ในวันที่ 22 พ.ย. ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (hot-rolled coil) ในเอเชียไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่อยู่ในโหมดรอดู เนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซาและแนวโน้มขาลง

Platts ประเมิน HRC SS400 หนา 3 มม. ที่ราคา $528/ตัน FOB ประเทศจีน และราคา $529/ตัน CFR เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทั้งสองอย่างไม่เปลี่ยนแปลงจากในวันก่อนหน้า และ Platts ประเมิน HRC SAE1006 ที่ราคา $533/ตัน FOB ประเทศจีน และราคา $538/ตัน CFR เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลงจากในวันก่อนเช่นกัน

โรงงานเหล็กในจีนไม่เต็มใจที่จะลดข้อเสนอขาย เนื่องจากตลาด HRC ในประเทศ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามียังความมั่นคง แม้ว่าจะมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นในจีน และตลาดต่างประเทศที่อ่อนแอ

“ปัจจุบัน โรงงานหลายแห่งได้ปรับลดอัตราการผลิต แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังค่อยๆ อ่อนตัวลง แต่ราคาควรจะคงที่ในระยะสั้น” ผู้ค้าในภาคตะวันออกของจีนกล่าว

ก่อนหน้านี้โรงงานได้สรุปคำสั่งซื้อจำนวนมากไปยังภูมิภาคต่างๆ เช่น ตะวันออกกลาง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รีบเร่งที่จะขายหรือลดข้อเสนอขายลง ผู้ค้ากล่าว

Platts ประเมินราคาสปอตของ HRC Q235 ขนาด 5.5 มม. ในเซี่ยงไฮ้ ราคาอยู่ที่ 3,850 หยวน/ตัน ($537.21/ตัน) ex-stock รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ราคาเพิ่มขึ้น 10 หยวน/ตัน จากวันก่อนหน้า แต่ลดลง 20 หยวน/ตัน จากวันที่ 18 พ.ย. สัญญาที่มีการซื้อขายมากที่สุดในเดือนมกราคม 2023 ในตลาด Shanghai Futures Exchange ปิดที่ 3,755 หยวน/ตัน ราคาลดลง 1 หยวน/ตัน จากวันก่อน

“สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้เข้าร่วมตลาดต่อแนวโน้มของตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อน เนื่องจากข้อจำกัดของโควิด-19 ยังคงค่อนข้างเข้มงวด” แหล่งข่าวโรงงานในภาคเหนือของจีนกล่าว “เมื่อเร็วๆ นี้มีการเสนอราคาซื้อไม่มากนัก อาจเป็นเพราะตลาดในประเทศอ่อนแอลงในสองวันมานี้ และผู้ซื้อยังอยากรอดูสถานการณ์ก่อน”

ตลาดเวียดนามยังคงเงียบ โดยผู้ซื้อไม่มีการเสนอราคาซื้อ เนื่องจากอุปสงค์ยังไม่ดีขึ้น ได้ยินข้อเสนอขายที่ลดลงในการนำเข้าที่มีต้นทางจากจีน มีราคาอยู่ที่ระหว่าง $530-$535/ตัน CFR  สำหรับการจัดส่งในเดือนธันวาคม แต่นั่นไม่ได้ดึงดูดความสนใจในการซื้อ ผู้ค้าในเวียดนามกล่าว

ตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนในอินโดนีเซียและปากีสถานก็ไม่ดีเช่นกัน

“ค่าเงินของเราอ่อนค่าลงมาก และนโยบายรัฐบาลของเราขัดแย้งกัน การนำเข้าวัตถุดิบถูกควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปสามารถเข้ามาได้อย่างเสรี” ผู้ซื้อจากอินโดนีเซียกล่าว

ผู้ค้ารายหนึ่งในปากีสถานกล่าวว่า เศรษฐกิจของปากีสถานอ่อนแอและมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนทางการเมือง อุปสงค์ที่ย่ำแย่ วิกฤตกระแสเงินสด และธนาคารก็กีดกันเรื่องของ letter of credit เช่นกัน

Platts ประเมินราคาเหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดม้วน (cold-rolled coil) เกรด SPCC หนา 1 มม. ที่ราคา $585/ตัน FOB ประเทศจีน ราคาลดลง $5/ตัน จากในสัปดาห์ก่อน เนื่องจากอุปสงค์ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น

ข้อเสนอขายจากโรงงานในจีนส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน อยู่ในช่วงราคา $600-$610/ตัน FOB ประเทศจีน สำหรับการจัดส่งในเดือนมกราคม เนื่องจากตลาดภายในจีนค่อนข้างทรงตัว

Platts ประเมิน CRC เกรดเดียวกันที่ 4,375 หยวน/ตัน ex-stock ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ในตลาดตัวแทนจำหน่ายในเซี่ยงไฮ้ ราคาลดลง 35 หยวน/ตัน จากในสัปดาห์ที่แล้ว

“ราคาซื้อขายจากโรงงานอาจแตกต่างกันไป เนื่องจากโรงงานบางแห่งสามารถขายได้สูงกว่า 30 หยวน ถึง 50 หยวน แต่โดยทั่วไปแล้ว กิจกรรมการซื้อขาย CRC ในประเทศไม่ค่อยดีนัก และราคาซื้อขายควรอยู่ในช่วงระดับที่ต่ำ” ผู้ค้ารายหนึ่งในภาคตะวันออกของจีน กล่าวว่า

ผู้ค้าบางรายกล่าวว่า ได้มีการสอบถามราคาเสนอซื้อจากผู้ซื้อในต่างประเทศ แต่ราคาของพวกเขาไม่ตรงกับราคาของโรงงาน

“โรงงานที่ใหญ่กว่าอย่าง Shougang และ Benxi Steel ไม่มีความต้องการที่จะลดข้อเสนอขาย โดยมีราคาข้อเสนอขายอยู่ที่ประมาณ $610/ตัน FOB” ผู้ค้าในทางตะวันออกของจีนกล่าว
แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights

EC จะเริ่มการไต่สวนการทุ่มตลาด การนำเข้าเหล็กแบน (flat bar steel) จากของตุรกีและจีน

EC จะเริ่มการไต่สวนการทุ่มตลาด การนำเข้าเหล็กแบน (flat bar steel) จากของตุรกีและจีน

คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถเริ่มทำการสอบสวนการทุ่มตลาดต่อการนำเข้าเหล็กแบน (flat bar) จากตุรกีและจีน โดยสมาคมผู้ผลิตเหล็กของตุรกี บอกกับ S&P Global Commodity Insights เมื่อวันที่ 9 พ.ย. หลังจากได้รับจดหมายอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้จากกระทรวงการค้าของตุรกี

ตามจดหมายดังกล่าว ผู้ผลิต เหล็กแบน (flat bar) ในยุโรปบางรายได้ลงนามในคำร้องต่อ EC เพื่อสนับสนุนการไต่สวน ซึ่งกำลังได้รับการประเมินโดยสหภาพยุโรป

การไต่สวนอาจส่งผลให้มีภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด หากพบว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์ เหล็กแบน (flat bar) จากทั้ง 2 ประเทศก่อให้เกิดความเสียหายต่อตลาดภายในประเทศในยุโรป

แต่เมื่อสอบถามเกี่ยวกับการไต่สวนหรือคำร้อง สมาคมเหล็กแห่งยุโรป Eurofer บอกกับ S&P Global ว่าไม่ให้คำตอบเรื่องนี้

ทาง EC ไม่ตอบสนองต่อการร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม และขณะที่ S&P Global ก็พยายามติดต่อกระทรวงการค้าของตุรกีเพื่อขอความคิดเห็นเพิ่มเติม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ตามข้อมูลที่ TCUD ที่แชร์กับ S&P Global ล่าสุด การส่งออก ผู้ผลิต เหล็กแบน (flat bar) ทั้งหมดของตุรกีมีจำนวนทั้งสิ้น 242,600 ตัน ตั้งแต่มกราคมถึงกันยายน 2022 ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม การส่งออก ผู้ผลิต เหล็กแบน (flat bar) ของตุรกีไปยังสหภาพยุโรปยังคงค่อนข้างคงที่ ที่ 67,400 ตัน โดยโรมาเนียและเยอรมนียังคงเป็นตลาดอันดับต้นๆ ที่ปริมาณ 16,200 ตัน และ 12,100 ตัน ตามลำดับ

จุดหมายปลายทางการส่งออก ผู้ผลิต เหล็กแบน (flat bar) ไปยังที่อื่นๆ ของตุรกีในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ โมร็อกโก 12,800 ตัน ตูนิเซีย 10,000 ตัน แคนาดา 9,000 ตัน สาธารณรัฐโดมินิกัน 7,650 ตัน เปรู 7,600 ตัน และสหรัฐฯ ที่ 6,300 ตัน

ราคาเหล็กทรงยาว (long steel) ของตุรกีได้รับแรงกดดันจากความต้องการที่ต่ำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

Platts ประเมินราคาการส่งออกเหล็กเส้น (rebar) ของตุรกีที่ $639/ตัน FOB เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ลดลงจากระดับสูงสุดภายในปี แตะที่ราคา $960/ตัน FOB เมื่อวันที่ 1 เมษายน
แหล่งที่มา : — S&P Global Commodity Insights.

ต้นทุนเหล็กพุ่งเกือบ 800 บาท/ตัน เหล็กเตรียมขยับราคาขึ้นอีกรอบ

ต้นทุนเหล็กพุ่งเกือบ 800 บาท/ตัน เหล็กเตรียมขยับราคาขึ้นอีกรอบ

วันที่ 19 กันยายน 2565 นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์กไฟฟ้าเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ต้นทุนการผลิตเหล็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาวัตถุดิบ พลังงาน โดยเฉเพาะค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง ค่าแรง รวมทั้งได้รับผลจากการทุ่มตลาดของสินค้านำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตในอุตสาหกรรมเหล็กนั้นอยู่ในอัตราที่ต่ำเพียง 30% เป็นเหตุให้ผู้ผลิตเหล็กจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม สินค้าเหล็กในการก่อสร้าง ได้แก่ สินค้าเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กรูปพรรณ เป็นสินค้าภายใต้การกำกับดูแลของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ดังนั้น ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในระดับหนึ่ง ว่าการปรับราคานั้นสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง

img_1442

ทั้งนี้ ราคาเศษเหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็กเส้นในปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 658 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับเพิ่มขึ้น 42% จากปี 2564 ที่มีราคาอยู่ที่ 464 เหรียญสหรัฐต่อตัน ประกอบกับค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานหลักในการหลอมเศษเหล็กได้ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 700-800 บาทต่อตัน โดยต้นทุนด้านพลังงานนั้นส่งผลกระทบทั่วทุกธุรกิจ แม้กระทั้งผู้ผลิตเหล็กหลักของโลกอย่างประเทศตุรกี ก็ได้ประกาศขึ้นราคาเหล็กแล้วตันละ 20-40 เหรียญสหรัฐ รวมทั้งการประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น

“ที่ผ่านมาผู้ผลิตสินค้าเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต จะถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้รับเหมา จากการปรับราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2564 แต่หากพิจารณาระดับราคาของสินค้าเหล็กเส้นในประเทศ เทียบกับประเทศต่าง ๆ แล้ว จะพบว่าสินค้าเหล็กเส้นของไทยมีราคาต่ำกว่าสินค้าของประเทศอื่นมาก

ตัวอย่างเช่น ในช่วงกลางปี 2564 ประเทศสิงคโปร์ ราคาเหล็กเส้นอยู่ที่ 738 เหรียญสหรัฐต่อตัน ประเทศตรุกีมีราคาเหล็กเส้น 740 เหรียญสหรัฐต่อตัน และประเทศจีนมีราคาเหล็กเส้น 852 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ประเทศไทยเสนอขายที่ 699 เหรียญสหรัฐต่อตัน และในยุคโควิด-19 ขณะที่ประเทศอื่นประสบปัญหาไม่สามารถนำเข้าสินค้า สินค้าขาดแคลน และมีราคาสูงเกินจริง แต่ประเทศไทยยังมีผู้ผลิตภายในคานอำนาจสินค้านำเข้าได้ จึงไม่ประสบกับปัญหาเหมือนกับประเทศต่าง ๆ”

สำหรับการปรับราคาเพิ่มขึ้น อาจมีผลกระทบไปยังผู้รับเหมาก่อสร้างได้ โดยผู้รับเหมาสามารถทำสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิต (ยี่ปั๊ว) ในการซื้อสินค้าสำหรับงานนั้น ๆ รวมถึงพิจารณาถึงการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนให้มีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การเลือกซื้อและเลือกใช้เหล็กคุณภาพสูง

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
เหตุไต้ฝุ่นถล่ม ผู้ผลิตเหล็กเกาหลีใต้ปิดการผลิตเหล็กที่เมือง Pohang

เหตุไต้ฝุ่นถล่ม ผู้ผลิตเหล็กเกาหลีใต้ปิดการผลิตเหล็กที่เมือง Pohang

ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำอย่าง POSCO ได้ระงับการดำเนินงานของเตา blast furnaces 3 เตา ที่โรงงานในเมือง Pohang “เตา blast furnaces 3 เตา ซึ่งเป็นโรงงานหลักของโรงงานผลิตเหล็ก ไม่ได้รับความเสียหาย แต่ถูกระงับชั่วคราว และคาดว่าจะทำงานได้ตามปกติเมื่อไฟฟ้ากลับมาจ่ายอีกครั้ง” Posco Holdings กล่าวเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งทาง POSCO ได้ปิดเตา 2 ใน 3 เตา เมื่อวันที่ 6 ก.ย. เพื่อลดความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น และยังได้ปิดเตาที่ 3 เนื่องจากไฟฟ้าดับ ทำให้การผลิตต้องหยุดชะงัก

ในระหว่างนี้ โรงงานยังไม่ได้อัปเดตราคาเหล็กลวดในตลาดภายในประเทศ หลังจากความเสียหาย โดยราคาล่าสุดที่ 800,000 วอน/ตัน ($577/ตัน) เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ราคาสแตนเลสในเอเชียปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากหลังจากเกิดเหตุการณ์ในเกาหลีใต้ ตลาด HRC ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบจำกัด เนื่องจากเกาหลีใต้ไม่ใช่ผู้ส่งออก HRC รายใหญ่ในภูมิภาค แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อตลาดยุโรปและอเมริกาบ้าง

img_0384

Posco Steeleon ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Posco Holdings ได้หยุดการผลิตเหล็กแผ่นอย่างไม่มีกำหนดที่โรงงาน Pohang เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งเดิมชื่อ POSCO Coated & Color Steel บริษัทกล่าวว่าได้ระงับ “การดำเนินงานเนื่องจากความเสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดจากไต้ฝุ่น Hinnamnor ” โดยหยุดการผลิตเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหายจากอุทกภัย โดย Posco Steeleon ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ (coated steel products) ซึ่งรวมถึงแผ่นเหล็กชุบสังกะสี (galvanized steel sheets) และอลูมิไนซ์ (aluminized steel sheets) สายการผลิตในประเทศมีกำลังการผลิตของ เหล็กเคลือบสังกะสี/เคลือบสี อยู่ที่ 960,000 ตันต่อปี

ความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม  Hyundai Steel ได้หยุดการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าทรงยาว และเหล็กสำหรับเครื่องจักรใหญ่ (long and heavy machinery steel products) ที่ Pohang Works  ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตที่ Pohang ได้แก่ เหล็กเส้น (rebar), H-beams และ continuous tracks หรือที่เรียกว่า tank หรือ caterpillar tracks. มีการผลิตเหล็กด้วยเตา electric arc furnace ขนาด 3.2 ล้านต่อปี ที่เมือง Pohang ซึ่งมีกำลังการผลิต track อยู่ที่ 300,000 ตันต่อปี โดยที่ใน Pohang ยังมีโรงงานเหล็กโครงสร้างรูปพรรณทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ (medium- and heavy-section) มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1.4 ล้านตันต่อปี โดย Hyundai Steel จะชดเชยการหยุดการผลิตโดยการเพิ่มสินค้าคงคลังเหล็กและอัตราการผลิตที่โรงงานเหล็กใน Incheon และ Dangjin

แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า